ครูชี้แจงแล้ว กรณีเด็ก ม.3 นักสนุกเกอร์ตัวแทนโรงเรียน ได้ 0 คะแนน
ครูสอนวิชาสุขศึกษา ชี้แจงแล้ว กรณีเด็ก ม.3 "น้องลมหนาว" นักสนุกเกอร์ตัวแทนโรงเรียน ได้ 0 คะแนน เผยใช้วิธีเก็บคะแนนจากการส่งงาน
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ด.ช.ลมหนาว อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือ น้องลมหนาว ลูกชายของ สมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือ ปูเป้ ฟุตบอล 108 นักข่าวสายกีฬาชื่อดัง ที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาสนุกเกอร์เยาวชนแห่งชาติ คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง แต่คะแนนสอบกลางภาคได้ 0 คะแนน วิชาพลศึกษาและสุขศึกษา ต่อมาทางด้าน โรงเรียนอัสสัมชัญ ก็ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า เกิดจากสาเหตุข้อผิดพลาดของระบบการลงคะแนนผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เกรด 0 โดยการลงคะแนนดังกล่าวมีระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทำให้ครูต้องรีบกรอกข้อมูลจึงอาจเกิดข้อบกพร่องขึ้นได้
ส่วนทางด้าน ปูเป้ สมฤกษ์ เปิดเผยหลังจากฟังคำชี้แจงของโรงเรียน ระบุว่า ลูกชายมีวิชาเรียนทั้งหมด 15 วิชา ช่วงสอบกลางภาคได้เข้าสอบไปแล้วทั้งหมด 13 วิชา แต่ยังเหลือวิชาพลศึกษากับสุขศึกษาที่ยังไม่ได้สอบเพราะลูกต้องไปแข่งกีฬาแห่งชาติ และได้ทำหนังสือขอตัวไปแข่งขัน ส่งไปขออนุญาตกับโรงเรียนอย่างชัดเจนแล้ว แต่แล้วปรากฎว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับผลการสอบและทราบว่าผลการสอบได้ 0 คะแนน น้องลมหนาวกับครอบครัวก็รู้สึกงง จึงมาพบกับผู้อำนวยการโรงเรียนและได้รับการชี้แจงที่ชัดเจนแล้ว จึงไม่ติดใจอะไรอีก
ล่าสุดทางด้าน ครูสอนวิชาสุขศึกษา ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวผ่านทางโซเชียล ระบุว่า สวัสดีครับ ผมคือ มาสเตอร์......ครูผู้สอนวิชาสุขศึกษา ชั้น ม.3 ตามที่เป็นข่าวดราม่า “น้องลมหนาวได้ 0 วิชาพลศึกษาและวิชาสุขศึกษา หลังลาไปแข่งสนุกเกอร์ ได้เหรียญทอง” ในขณะนี้
จริงๆ แล้วผมไม่อยากโพสต์อะไรเพราะกลัวจะกระทบกับเด็ก แต่จากข่าวบางสำนักที่ออกมาในตอนแรกนั้นได้ให้ข้อมูลที่ผิดอย่างมาก จนทำให้ผมถูกด่าถูกตราหน้าจากสังคมซึ่งมาจากการทำข่าวของสำนักข่าวเหล่านี้ และจากการแถลงข่าวจากทางโรงเรียน บอกตามตรงว่าข้อมูลไม่ครบถ้วนครับ
การโพสต์ในครั้งนี้จึงอยากจะออกมาอธิบาย ขอย้ำ! นี่! เป็นการอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆ แล้วเอาไปด่ากันมั่วๆสนุกปากครับ
จากข่าวต้นเรื่องที่ทำให้คนเข้าใจผิดกันมากที่สุดคือ เด็กติด 0 (หมายถึงได้เกรด 0 ที่เมื่อแก้ผ่านแล้วก็จะได้แค่เกรด 1) แต่ความเป็นจริงคือ เด็กได้ 0 คะแนนกลางภาค ซึ่งสามารถตามส่งงานและยังได้เกรด 4 อยู่
และอีกประเด็นคือ บอกว่าครูไม่นัดเด็กสอบทั้งๆ ที่เด็กลาไปแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 1 นครนายกเกมส์ และได้เหรียญทอง ซึ่งโรงเรียนได้อนุญาตให้ไปแข่งและสามารถเลื่อนสอบได้
คำชี้แจง
วิชาสุขศึกษาและพละศึกษา และวิชาอื่นๆ (ไม่ขอพูดถึงเพราะไม่ได้เป็นข่าว) เป็นวิชาที่ไม่มีสอบกลางภาค แต่เป็นวิชาที่เก็บคะแนนจากการทำงานส่งหรือเก็บคะแนนปฏิบัติระหว่างเรียนก่อนสอบกลางภาค แล้วนำคะแนนเก็บนี้มาใส่ในช่อง “คะแนนกลางภาค” ให้กับนักเรียน ซึ่งในกรณีนี้นักเรียนไม่ได้ส่งงานเลยจนถึงช่วงสอบกลางภาค
ช่วงสอบกลางภาคขอเลื่อนสอบไปแข่งขันกีฬา) คะแนนส่งงานของเด็กจึงไม่มี ดังนั้นจึงให้ 0 คะแนน (ไม่ใช่ติด 0 หรือเกรด 0 ตามที่ข่าวลง) และผมก็ให้ 0 คะแนนกลางภาคไป 10 กว่าคนรวมถึงเคสนี้ด้วย
- การได้ 0 คะแนนกลางภาค ไม่ได้หมายความว่าได้เกรด 0
- การได้ 0 คะแนนกลางภาค ไม่ต้องเสียเงินลงทะเบียนซ่อม
- การได้ 0 คะแนนกลางภาคสามารถตามส่งงานเพื่อให้มีคะแนนได้จนถึง final (หมายถึง วันที่ตัดเกรดก็ยังตามส่งงานให้มีคะแนนกลางภาคได้ ยืดหยุ่นสุดๆ)
การได้ 0 คะแนนกลางภาค
เพราะโรงเรียนมีระยะเวลาในการกรอกคะแนนกลางภาคหลังจากสอบกลางภาคเสร็จ เพื่อให้มีใบคะแนนออกมาให้ผู้ปกครองได้ดูคะแนนเบื้องต้น ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม ความรับผิดชอบ และวางแผนการเรียนให้ได้เกรดดีๆให้กับลูกได้ รวมถึงหากสงสัยใดๆ สามารถสอบถามกับครู หรือหากพบว่ามีปัญหาก็สามารถช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อเด็กได้
การได้ 0 คะแนนกลางภาค เพราะวิชาสุขศึกษาที่ผมสอนนี้ ไม่มีสอบกลางภาค จึงได้กำหนดระยะเวลาส่งงานก่อนสอบกลางภาค (แต่จริงๆ แล้วผมก็ยืดหยุ่นให้ส่งหลังสอบ และยังมีเด็กมาส่งงานในวันสุดท้ายของการกรอกคะแนน ผมก็ยังรับงานและกรอกคะแนนให้ตามคุณภาพงาน ไม่ได้หักคะแนนส่งล่าช้าแต่อย่างใด และนักเรียนมีระยะเวลาทำงานส่ง 2-3 เดือนก่อนสอบกลางภาค)
จากข่าวดังกล่าวมีหลายข้อกล่าวหาที่อยากอธิบาย ดังนี้…
- ครูผู้สอนเป็นโค้ชวอลเลย์บอลที่พานักกีฬาไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติเหมือนกัน ทำไมไม่ติด 0
- ใช่ครับ นักกีฬาวอลเลย์บอลไปแข่งขันเหมือนกัน และได้ทำการเลื่อนสอบเหมือนกัน (แข่งขันตรงช่วงสอบพอดี) และมาตามสอบตามที่ฝ่ายวิชาการกำหนดในภายหลังเหมือนกัน
- ส่วนวิชาที่ไม่มีสอบกลางภาค แต่ต้องมีคะแนนกลางภาค นักกีฬาวอลเลย์บอลไม่มีใครได้ 0 คะแนนกลางภาคแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนรู้ว่าต้องแข่ง จึงรับผิดชอบตามงานให้เรียบร้อยก่อนไปแข่ง จึงทำให้มีคะแนนกลางภาค
ในส่วนนักกีฬาวอลเลย์บอลชั้น ม.3 ที่ไปแข่งในรายการนี้ ซึ่งผมก็เป็นคนสอนวิชาสุขศึกษาเขาด้วย มีอยู่ 1 คน ก็ไม่ได้ 0 คะแนนกลางภาค เพราะเขาก็ส่งงานก่อนไปแข่ง และทำส่งพร้อมเพื่อนๆ ปกติครับ และผมก็ตรวจงานให้คะแนนปกติเหมือนนักเรียนคนอื่นครับ
ครูไร้จรรยาบรรณ
- ผมให้ 0 คะแนนกลางภาค (ไม่ใช่เกรด 0) นักกีฬาที่ไปแข่งได้เหรียญทอง ไร้จรรยาบรรณ
กับ ผมให้คะแนนเด็ก ผ่านหรือเต็ม ทั้งที่ไม่มีงาน ไม่มีคะแนนเลย อาจจะมากกว่าหรือเท่ากับเด็กนักเรียนคนอื่นที่เข้าเรียนและส่งงานปกติ อันไหนไร้จรรยาบรรณกว่ากันครับ
จรรยาบรรณ
ก็ควรมีกับคนที่ไปเขียนข่าวด้วย เขียนข่าวมั่วข่าวผิด ได้ 0 ติด 0 เกรด 0 หัดหาข้อมูลให้ชัดแล้วค่อยไปเขียน ไม่ใช่ฟังอะไรมาก็ลงไปก่อน เอายอดคนอ่าน แต่เคยคิดถึงคนที่โดนด่าบ้างไหม ตอนทำข่าวใส่กันจัง แชร์กันจัง แล้วพอรู้ว่าให้ข้อมูลกันผิดจะแก้ไขอย่างไง เคยคิดจะขอโทษไหม จรรยาบรรณ?
ตรรกะง่ายๆ เด็กจะติด 0 ใช่เวลานี้ไหม เขาสอบปลายภาคกันช่วงไหน ปิดเทอมช่วงไหน ควรศึกษา… การให้ 0 คะแนนกลางภาคของผมมันโชว์ในใบคะแนน ซึ่งเด็กอาจจะถูกตำหนิ ถูกต่อว่า หรือหาวิธีแก้ไข จากผู้ปกครองไม่กี่คนที่จะรับรู้ถึงเรื่องคะแนนนี้ แต่สิ่งที่คุณทำข่าวผิด ให้ข้อมูลผิด ทำให้ผมถูกตราหน้าจากคนทั้งประเทศ คุณจะรับผิดชอบกันอย่างไร
ขอแก้ข่าวที่ว่าระบบผิดพลาด…ไม่จริง!
ผมใส่คะแนนเอง ไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ภายหลังจากนี้จะมีกระบวนการติดตามเด็กทั้งจากครูประจำวิชาและคุณครูประจำชั้น เพื่อแก้คะแนนในรายวิชาต่างๆ ที่ตกกลางภาค (ทุกวิชา) หากผมผิดเพราะให้ 0 คะแนนกลางภาค (ไม่ใช่เกรด 0 สามารถแก้ไขคะแนน และยังได้เกรด 4) ผมว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ถ้าผมผิดเพราะให้ 0 คะแนนกลางภาค แล้วทำให้ไม่ถูกใจ อันนี้ผมก็ขออภัยและยอมรับผิด บอกตามตรงผมไม่รู้ว่าที่ให้ 0 คะแนนไปนั้นเป็นลูกใครหรือมีอุปการคุณกับโรงเรียนอย่างไร แต่สำหรับเคสนี้ผมจำได้และจะระวังให้มาก ขออภัยอีกครั้งครับ
และในส่วนของเด็ก ซึ่งเป็นนักกีฬา สร้างชื่อเสียง และได้เหรียญทอง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือกภาค 1 นครนายกเกมส์ ผมให้เกรด 4 แน่นอนครับ เพราะโรงเรียนมีเกณฑ์ช่วยเหลือนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนอยู่แล้วครับอีกอย่างครับ วอลเลย์บอลของผมที่พาไปแข่งก็ได้เหรียญทองเหมือนกันครับ