จบลงด้วยดี ลุงมณฑล พอใจคำชี้แจงกรมบัญชีกลาง ขอกลับบ้านไปถือศีลสงบจิตสงบใจ
"ลุงมณฑล" ชายพิการโยกสามล้อ พอใจหลังฟังคำชี้แจงจากกรมบัญชีกลาง เผยจากนี้จะกลับบ้านไปถือศีลสงบจิตสงบใจ ยกมือขอโทษผู้เกี่ยวข้อง
จากกรณีชายพิการโยกสามล้อ จากจังหวัดสุโขทัย เข้ากรุงเทพฯ เพื่อติดต่อเรื่องการรับเบี้ยคนพิการ ล่าสุดทางด้านพระครูชาครธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดราชบรรทม จว.พระนครศรีอยุธยา นำ นายมลฑล เพชรสังข์ อายุ 48 ปี โดยสวมใส่ชุดขาว เดินจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเข้าพบ น.ส.ศรีนวล อุบลวัฒนสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายสวัสดิการ กองบริหารการรับ - จ่ายเงินภาครัฐกรมบัญชีกลาง
เพื่อสอบถามข้อมูลว่าทำไมชื่อของตนเองหายออกจาก ระบบทะเบียนราษฎร์ในอำเภอสีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เนื่องจากตนยังไม่เสียชีวิตหรือไปอยู่ต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาได้มีการโยกรถสามล้อไปทวงถามอย่างหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ เพราะถูกระบุว่าไม่มีรายชื่อในระบบการรับเบี้ยคนพิการ
กระทั่งโยกรถสามล้อจากจังหวัดสุโขทัยมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยากลับมีชื่อเข้าไปในระบบทะเบียนบ้านและมีสิทธิ์รับเบี้ยคนพิการได้ จึงทำให้รู้สึกสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่อข้อมูลทะเบียนราษฎร์ได้ แต่ไม่ดำเนินการค้นหาหรือแจ้งให้ตนทราบ
ด้าน น.ส.ศรีนวล อุบลวัฒนสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายสวัสดิการ กองบริหารการรับ - จ่ายเงินภาครัฐกรมบัญชีกลาง ที่สอบถึงข้อมูลของทะเบียนราษฎร์เป็นความรับผิดชอบของกรมการปกครองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพราะตามหน้าที่ของกรมบัญชีกลางแล้ว จะไม่ทราบในรายละเอียด เนื่องจากกรมบัญชีกลางมีหน้าที่จ่ายเงินสวัสดิการต่างๆให้กับประชาชนเท่านั้น จึงทำให้ไม่ทราบขั้นตอน
แต่จากการจัดการประสานการประสานกับหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องทราบว่า ขณะนี้ชื่อของนายมณฑลได้มีชื่อในทะเบียนบ้านแล้ว พร้อมกลับสามารถดำเนินการขอรับสิทธิ์เบี้ยคนพิการได้ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม เป็นต้นไปในวงเงิน 800 บาทต่อเดือน ซึ่งตามขั้นตอนการโอนเบี้ยคนพิการสามารถทำได้ 4 วิธี คืน 1. โอนเข้าที่บัญชีตรงของผู้ขอรับสิทธิ์, 2. รับเงินสดกับกับหน่วยงานท้องถิ่น, 3.โอนเข้าบัญชีผู้อื่นที่ผู้ขอรับสิทธิ์มอบอำนาจ และ 4 มอบอํานาจให้ผู้อื่นรับเงินสดแทน
หลังได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางนายมณฑล เปิดเผยความในใจเพิ่มเติม วันนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและขอโทษประชาชน ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น จากที่ตนได้มีพฤติกรรมด่ากราด แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เนื่องจากมีความเครียดสะสมและไม่ได้พักผ่อน แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจก็จะเดินทางกลับ เพราะได้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว
โดยการเดินทางกลับครั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปส่งที่พระนครศรีอยุธยาและเจ้าอาวาสวัดราชบรรทม นำไปส่งที่จังหวัพระนครศรีอยุธยา ก่อนเดินทางต่อปรับภูมิลำเนาที่จังหวัดสุโขทัย โดยตั้งใจว่าจะกลับบ้านไปถือศีลพร้อมกับยินดีให้สื่อมวลชนไปติดตามชีวิตได้อย่างเต็มที่