อดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฉกลโกงดูดเงินเหยื่อ แค่คุย 2 นาที เงินเกลี้ยงบัญชี
อดีตเหยื่อค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฉกลโกงดูดเงินเหยื่อ แค่คุย 2 นาที เงินเกลี้ยงบีญชี เหยื่อส่วนใหญ่คนจีนจะล็อคเป้าไปที่ข้าราชการระดับสูง
เหยื่อค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าร้องสายไหมต้องรอด หลังหนีออกมาได้ พร้อมเปิดเผยข้อมูลเตือนภัย สามารถดูดเงินผ่านแอปธนาคาร โดยไม่ต้องกดลิ้งค์ ซึ่งผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนมกราคม ตน ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกัน ติดต่อให้ไปทำงานคาสิโนถูกกฎหมายที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตนก็หลงเชื่อ หญิงคนนั้นโอนเงินมาให้ 2 พันบาท เป็นค่าเดินทางไปที่ อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อข้ามฝั่งไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อข้ามไปแล้วตนก็ทราบว่าถูกหลอกให้มาทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ เมื่อคิดหนีก็สายไปแล้ว จึงจำยอมทำงาน
แต่เมื่อเข้าไปในนั้น เห็นเป็นอาณาจักรที่คนจีนสร้างไว้คล้ายเรือนจำ มีหลายตึก มีรั้วล้อมรวดหนาวสูง 4 เมตร ยากจะข้ามหนี ตนเห็นอุปกรณ์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกคนเป็นเครื่องดูดเงิน 4 เครื่อง เครื่องละ 4 ล้านดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทย 120 ล้านบาท สามารถดูดเงินได้ 70 บัญชีต่อวัน
- โดยมีคนจีนเป็นผู้ควบคุมเครื่อง และวิธีการทำงานไม่ซับซ้อน แค่โทรศัพท์ไปหาคนไทยเพื่อให้ยืนยัน ชื่อ-สกุล เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ และเลขบัญชีธนาคาร ส่วนตนจะแนะนำตัวว่าเป็นพนักงานจากหน่วยงานรัฐบาล พยายามชวนคุยไปเรื่อย ๆ ให้ครบ 2 นาที เมื่อคนไทยพูดยืนยันเสร็จสิ้น จะส่งเสียงไปให้เจ้าหน้าที่คนจีนใช้เครื่องดูดเงินทำการแฮกเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายจนเงินหมดเกลี้ยงบัญชี
ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่คนจีนจะล็อคเป้าไปที่ข้าราชการระดับสูง ข้าราชการเกษียณ และนักธุรกิจคนไทยที่มีเงินในบัญชี 2 ล้านขึ้นไป ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่จะซื้อมาจากธนาคารของรัฐบาล เช่น 1,600 ข้อมูลรายชื่อ ก็จะราคา 10 ล้านบาท เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วตนก็จะโทรหารายชื่อเหล่านี้ และต้องหายอดให้คนจีนประมาณ 150 ล้านบาท ต่อวัน ส่วนตนจะได้เงินเดือนละ 3 หมื่นบาท ค่าคอมมิชชั่น ล้านละ 1 หมื่น 5 พันบาท
ต่อมา ตนจึงได้หลบหนีออกมาโดยการใช้ผ้านวมพาดไปยังรั้วลวดหนาและขึ้นไปยังชั้น 5 เพื่อกระโดดข้ามรั้วที่มีความสูงประมาณ 3-4 เมตร จากนั้นตนได้เรียกรถ 3 ล้อไปส่งที่หน้าด่านอรัญประเทศ และขอยืมโทรศัพท์คนขับรถ 3 ล้อ โทรไปขอยืมเงินจากผู้คุมซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน มาจ่ายค่ารถและค่าข้ามประเทศโดยมุดเข้าช่องทางธรรมชาติจำนวน 3,000 บาท
นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ตนอาจจะประสานไปยังตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งฝากไปถึงทุกหน่วยงานว่าอย่ากระทำแบบนี้กับคนไทยด้วยกันเองเลย หากเจ้าหน้าที่ธนาคารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐท่านใดกำลังกระทำอยู่ขอให้เลิกทำและเลิกกินเงินสินบน
นอกจากนี้ตนยังได้รับทราบข้อมูลมาว่า ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการเบิกถอนเงินจำนวนมากจากธนาคารตามแนวชายแดนในประเทศไทยทุกวัน แต่ทำไมธนาคารถึงไม่สงสัยเลย หรือมีการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่ธนาครหรือไม่ ตนจึงอยากฝากให้ธนาคารและตำรวจชายแดนตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย