เน็ตไอดอลคนดัง เจอมือดีปล่อยคลิปลับส่วนตัว แจ้งความ 2 โรงพักคดียังไม่คืบ
เน็ตไอดอลชื่อดัง มีผู้ติดตามทางโซเชียลกว่า 2 ล้านคน แจ้งความเอาผิดมือดีปล่อยคลิปส่วนตัว แจ้งความ 2 โรงพักคดียังไม่คืบ
จากกรณีมีรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เมืองทองธานี เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ก.พ.2567 ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ได้พานางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี อดีตนักแข่งรถ และเน็ตไอดอลชื่อดังที่มีผู้ติดตามทางโซเชียลกว่า 2 ล้านคน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ไม่หวังดีแอบนำคลิปวิดีโอปล่อยลงโซเชียล ขณะร่วมหลับนอนกับอดีตแฟนหนุ่ม
โดยผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ตนเริ่มคบหากับอดีตแฟน ตั้งแต่ปี 2565 โดยคบหากันได้ 3-4 เดือน โดยตลอดระยะเวลาที่คบหากันนั้น ฝ่ายชายมักจะมีรสนิยมชอบถ่ายคลิปขณะร่วมหลับนอน ซึ่งเธอก็ได้ทำข้อตกลงไว้ว่าหลังจากร่วมหลับนอนเสร็จก็ขอให้ลบคลิปดังกล่าวไป
ต่อมาจับได้ว่าฝ่ายชายมีแอบคุยกับหญิงอื่นหลายคน และมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างเจ้าชู้ จึงได้เลิกลากันไป
ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ตนกับอดีตแฟนมีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งอดีตแฟนก็ได้แซวเชิงข่มขู่ว่า จะเผยแพร่คลิปดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกตกใจ เพราะฝ่ายชายเคยบอกว่าลบไปหมดแล้ว
กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2566 มารู้เรื่องจากแฟนคลับ ว่ามีคลิปวีดีโอขณะที่เธอร่วมหลับนอนกับอดีตแฟน หลุดออกมาทางโลกออนไลน์ ตนจึงรีบสอบถามไปยังฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายเขาตอบกลับมาว่าไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เป็นคนเผยแพร่
เธอจึ้งตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 หลังจากกลับมาอยู่บ้านที่สุพรรณ ก็มารู้ว่ามีคลิปออกมาอีกและแจ้งความครั้งที่ 2 ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา
โดยขณะนี้คดีความยังคงไม่มีความคืบหน้าอะไร จึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ให้ติดตามความคืบหน้าคดี และต้องการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่มาแสดงความคิดเห็นจนทำให้เธอเสียหายเพิ่มเติมอีกด้วย
ในขณะที่ นายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า สอท.2 ต้องตรวจสอบว่าบุคคลใดเป็นคนเผยแพร่คลิปวีดีโอดังกล่าว เนื่องจากเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ และศักยภาพของตำรวจไซเบอร์ ซึ่งที่พาผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมกับตำรวจไซเบอร์ในวันนี้นั้น การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ ส่วนคนที่เข้าไปคอมเม้นก็จะผิดในเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วย