รวบ "แป๊ะ ตามาร" หลังยกพวกยิงถล่มบ้านคู่อริ มีหมายจับติดตัว 4 หมาย
รวบ "แป๊ะ ตามาร" ผู้ต้องหาหนีคดีฆ่าผู้อื่น และร่วมกันปล้นทรัพย์ หลังยกพวกยิงถล่มบ้านคู่อริ คาดทวงเงินค่ายาเสพติด ล่าสุดเจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง รวบ "แป๊ะ ตามาร" หลังยกพวกยิงถล่มบ้านคู่อริ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม “แป๊ะ ตามาร” นายสาโรชฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 4 หมายจับ ดังนี้
1) หมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 98/2567 ลงวันที่ 6 ก.พ.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
2) หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.69/2566 ลง 22 ธ.ค.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกัน ปล้นทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส”
3) หมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 341/2566 ลง 3 พ.ย.66 ตาม คดีหมายเลขดำที่ อ735/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ796/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อ พรบ.อาวุธปืนฯ”
4) หมายจับของศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ 446/2566 ลง 26 ต.ค.66 ตามคดีหมายเลขดำที่ ย1496/2566 คดีหมายเลขแดงที่ ย1497/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อประมวลกฎหมายยาเสพติด (มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเสพเมทแอมเฟตามีน)”
สถานที่จับกุม หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก
2. เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 4 นัด บรรจุอยู่ในตัวปืนพร้อมใช้งาน
พฤติการณ์ กล่าวคือก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ นายสาโรชฯ เป็นผู้ต้องหาซึ่งมีประวัติเคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ อ.พนม จว.สุราษฎร์ธานี และถูกจับกุมตัวได้เมื่อประมาณกลางปี 2566 จากนั้นระหว่างการพิจารณาคดีได้รับการประกันตัวในชั้นศาลแล้วหลบหนีไม่ไปศาลตามนัด ต่อมาปลายปี 2566 ผู้ต้องหานี้ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเชื่อมาสาเหตุมาจากการทวงเงินค่ายาเสพติด และได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีเสียหายซึ่งอยู่ในบ้าน
ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปภายในบ้านของผู้เสียหายจำนวนหลายนัด แล้วขับรถยนต์หลบหนีไป เคราะห์ดีที่กระสุนไม่โดนผู้เสียหายหรือผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวน สภ.พนม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหานี้ไว้ตามหมายจับข้างต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสาโรชฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้หลบหนีการจับกุม มาไปอยู่พื้นที่ ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี จึงวางแผนเข้าทำการจับกุมตัว นายสาโรชฯ ไว้ได้
จากการตรวจค้นห้องพักพบ อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 4 นัด บรรจุอยู่ในตัวปืนพร้อมใช้งาน ซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนของนายสาโรชฯ จึงได้จับกุมตัว
พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา