รวบ "บัญชีม้า" เตือน ไม่คุ้มอย่าคิดทำ เสี่ยงติดคุก เสียเงิน-เสียเวลา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมบัญชีม้า รับสารภาพกลับใจ อุทาหรณ์ชีวิต พร้อมฝากเตือนไม่คุ้มอย่าคิดทำ เสียทั้งเงินและเวลา
จากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.บัญชา ช่วยรอดหมด รอง สว.กก.๕ บก.ปอศ., ด.ต.สารัตน์ พลไทย, ด.ต.ฐณวรัตน์ ตะปินา, ส.ต.อ.ชยางกูร แยงไธสง, ส.ต.อ.วรรณวัฒน์ ทิพย์พาวัลย์, ส.ต.อ.ธนพงษ์ ด้วงคำจันทร์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ต.สิทธิชัย เข็มกลัด สว.กก.1 บก.สส.สตม.,ร.ต.อ.วิจารย์ แก้ววิเศษ รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม., ส.ต.อ.เพชรวุฒิ มาหา ผบ.หมู่ กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันจับกุม นายอภิชาติ อายุ 31 ปี หนุ่มบัญชีม้า ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 530/2564 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ฐานความผิด "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น"
สถานที่จับกุม ชานชาลา สถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2560 ผู้ต้องหาเปิดบัญชีธนาคารให้กับกลุ่มคนร้าย โดยเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้มอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ และสืบสวนจนทราบว่า นายอภิชาติฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 530/2564 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ฐานความผิด "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" ได้เดินทางเข้ามากรุงเทพมหานคร โดยทางรถไฟ
เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบ ณ ชานชาลา สถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ดังกล่าวข้างต้น พบนายอภิชาติฯ ยืนอยู่ ณ ชานชาลาดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจพร้อมแสดงหมายจับให้นายอภิชาติฯ ดูและได้อ่านข้อความในหมายจับพร้อมทั้งให้นายอภิชาติฯ อ่านด้วยตนเองแล้ว
ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับตามหมายจับพร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้ทำการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยังพบว่า นายอภิชาติฯ มีหมายจับอีก 3 หมาย ดังนี้
1.หมายจับของศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ที่ จ.212/2562 ลงวันที่ 12 ธันวาคม2562 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงทรัพย์ ในคดีของ สภ.บางปะอิน
2.หมายจับของศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 84/2564 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง ในคดีของ สภ.โซ่พิสัย
3.หมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.363/2564 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ในคดีของ สภ.ระโนด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้ง พงส.สภ.บางปะอิน, พงส.สภ. โซ่พิสัย และ พงส.สภ.ระโนด ให้ทราบ เพื่อดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2560 ได้พบข้อความโพสในเฟซบุ๊ก ระบุว่า สนใจทำงานพิเศษอยู่กับบ้านมีรายได้ โดยให้ส่งภาพบัตรประชาชน พร้อมหมายเลขบัญชีธนาคาร ผู้ต้องหาสนใจจึงติดต่อได้ส่งภาพบัตรประชาชนพร้อมหมายเลขบัญชีธนาคาร
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้โอนเงินให้ผู้ต้องหา จำนวน 500 บาท เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยกลุ่มคนร้ายให้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ของกลุ่มคนร้ายผูกกับบัญชีธนาคาร เมื่อเปิดบัญชีธนาคารเสร็จ ผู้ต้องหาได้ส่งมอบสมุดบัญชีธนาคารไปให้กลุ่มคนร้ายทางไปรษณีย์
หลังจากนั้นประมาณกลาง ปี ๒๕๖๒ ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดสระบุรี และศาลจังหวัดลพบุรี ในความผิดฐาน ฉ้อโกง มาแล้ว โดยศาลจังหวัดสระบุรีพิพากษาจำคุก 1 เดือน และศาลจังหวัดลพบุรีพิพากษาจำคุก 1 เดือน จนต่อมาในวันนี้ผู้ต้องหา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 530/2564 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ฐานความผิด "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" ไว้อีกคดีหนึ่ง และจากการตรวจสอบข้อมูลตามหมายจับ พบว่านายอภิชาตฯ มีหมายจับอีก 3 หมาย จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยผู้ต้องหากลับใจพร้อมฝากเตือนภัย "อย่าหลงเชื่อเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้ใด อย่าเห็นแต่ผลประโยชน์เล็กน้อย เสียทั้งเงินและเวลา เสี่ยงติดคุก"
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ร.ต.อ.บัญชา ช่วยรอดหมด เบอร์โทร 086-333-1459