จับแล้ว "เอ้ ริมปิง" วีรกรรมแสบ โกงเงินหลายคดี ปิดฉากล่าหลังหลบหนีกว่า 3 ปี
จับแล้ว เอ้ ริมปิง อดีตแอดมินเพจบริษัทการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต สวมรอยใช้บัญชีธนาคารตนรับเงินโอนคืนแทนลูกค้า หลังหลบหนีกว่า 3 ปี
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก
โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางสาวเอ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท แล้วนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ก่อนจะถูกบริษัทให้ออกจากงานและหนีหายตัวไปตั้งแต่ปี 2564
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 07.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม
นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา ตำบลริมปิง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์นายจ้าง" โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ท้าย หมู่ 10 ตำบลหนองไม้กอง อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร
ในชั้นจับกุม นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ ริมปิง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงระดับมหาวิทยาลัย สาขาการตลาดอินเตอร์ หลังจากเรียนจบเคยทำงานประสานงานนักศึกษาแลกเปลี่ยน ทำอยู่ประมาณเกือบปี ก่อนจะกลับไปช่วยบ้านทำธุรกิจค้าอาหารทะเลแห้ง
ต่อมาประมาณปี 2564 ตนได้มีโอกาสไปทำงานเป็นแอดมินเพจของบริษัท นินจาโอม อลังการ ตระการตา จำกัด ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยทำหน้าที่คอยตอบคำถามลูกค้าที่ติดต่อสั่งซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ส่วนควบทุกชนิดจากเพจ แต่เนื่องจากขณะนั้นตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับมีปัญหากับอดีตสามี มีเหตุที่ต้องใช้เงินด่วน อีกทั้งตนมีโอกาสที่ได้คุยกับลูกค้าเนื่องจากตนเป็นแอดมินเพจของบริษัท
ซึ่งลูกค้ามีเหตุที่บริษัทต้องโอนเงินคืนให้แก่ลูกค้า พอถึงกำหนดที่บริษัทต้องโอนเงินคืน ตนได้สวมรอยนำเลขบัญชีธนาคารของตนเปลี่ยนแทนเลขบัญชีธนาคารของลูกค้าซึ่งจะต้องได้รับเงินคืนจากบริษัท เพื่อนำเงินไปหมุนใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ทั้งนี้ตนก่อเหตุไปหลายครั้งจำจำนวนครั้งไม่ได้ ก่อนที่จะถูกบริษัทจับผิดได้เนื่องจากฝ่ายบัญชีเห็นว่าบัญชีลูกค้าที่ขอรับเงินคืนเป็นเลขบัญชีซ้ำ ตนจึงถูกให้ออกจากงาน และได้หลบหนี ก่อนจะได้มาพบกับสามีใหม่จึงมาทำงานขายอาหารสดในพื้นที่ อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี จำนวน คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2558 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน "ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น" ท้องที่ สภ.ช้างเผือก ภ.จว.เชียงใหม่
2) ปี 2564 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 454/2564 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 743/2563 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 689/2564) ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์นายจ้าง"
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นางสาวอรพิส์ชา หรือเอ้ เกรียงกิรติไกร ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ "สืบสวนนครบาล IDMB" ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ