"พังบุญเย็น" ถึงบ้านใหม่แล้ว ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง

สืบเนื่องจากกรณีเหตุสลดพังบุญเย็น ทำร้ายควาญเล็กจนเสียชีวิต ครอบครัวเสียใจอย่างมากและทำใจเลี้ยงพังบุญเย็นต่อไปไม่ไหว เนื่องจากก่อนหน้าที่พังบุญเย็นจะมาอยู่กับครอบครัวควาญเล็กก็เพิ่งทำร้ายควาญคนเก่า ซึ่งเป็นอาของควาญเล็กเสียชีวิตมาแล้ว และเมื่อมาทำร้ายควาญเล็กอีกทำให้ปู่เหมา พ่อของควาญเล็กทำใจเลี้ยงต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจส่งต่อบ้านใหม่อีกครั้ง ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง

พังบุญเย็น ถึงบ้านใหม่แล้ว ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง

โดยคุณกัญจนา ศิลปอาชา เสนอความช่วยเหลือซื้อตัวพังบุญเย็น ซึ่งในตอนแรกนั้นมีปางไม้ติดต่อมาขอซื้อตัวเพื่อไปลากซุง แต่ปู่เหมาสงสารไม่อยากให้พังบุญเย็นต้องไปลากซุง สุดท้ายจึงตัดสินใจส่งพังบุญเย็นให้กับคุณกัญจนา

พังบุญเย็น ถึงบ้านใหม่แล้ว ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง

และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 คุณกัญจนา ศิลปอาชา พร้อมด้วยทีมงานได้เดินทางมารับพังบุญเย็นที่บ้านเพื่อส่งไปยัง Patara Elephant Farm หรือฟาร์มช้างภัทรที่อำเภอหางดง เชียงใหม่ โดยหนึ่งในทีมควาญช้างที่มารับพังบุญเย็นมีควาญขลุ่ย พ่อบุญธรรมของน้องกันยา ลูกช้างป่าภูวัว เดินทางมารับด้วย

พังบุญเย็น ถึงบ้านใหม่แล้ว ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง

โดยคุณกัญจนา ได้อัปเดตการเดินทางเป็นระยะ โดยพังบุญเย็นเดินทางถึง Patara Elephant Farm แล้วเมื่อเวลาประมาณ 12.41 น. วันที่ 12 มีนาคม 2567 ซึ่งในการเดินทางแรกๆพังบุญเย็นอยู่ท้ายรถเพียงตัวเดียว ไม่มีควาญอยู่ด้วยเพราะงวงของบุญเย็นคว้าถึงตัวได้ เพราะเป็นช้างที่ดุจึงต้องคอยเซฟทีมควาญช้าง

แต่ระหว่างทางพังบุญเย็นก็ยืนอยู่นิ่งๆ แต่มีกัดสายกล้องขาดไป 1 ตัว และระหว่างทางควาญช้างก็จะแวะตรวจดูความเรียบร้อยอยู่เป็นระยะ และได้จัดควาญให้ยืนประกบซ้าย-ขวา รวมถึงมีรถขับตามเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่

พังบุญเย็น ถึงบ้านใหม่แล้ว ครอบครัวอโหสิกรรม เมตตาไม่ขายไปลากซุง