สั่งเด้งด่วน ผอ.หวงเก้าอี้ หลังให้ครูสาวซื้อให้ใหม่ เสียใจจนแขนขาอ่อนแรง
สั่งเด้งด่วน "ผอ.หวงเก้าอี้" ตำหนิเรื่องที่เผลอไปนั่งเก้าอี้ เสียใจจนแขนขาอ่อนแรง ถึงขั้นต้องให้ไปซื้อเก้าอี้ให้ใหม่
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นดราม่าที่ได้รับความสนใจอย่างมาก กรณีแฟนของครูสาวรายหนึ่งทนไม่ไหวหลังรู้ว่าแฟนที่เป็นครูถูก ผอ.ตำหนิเรื่องที่เผลอไปนั่งเก้าของ ผอ. ถึงขั้นต้องให้ไปซื้อเก้าอี้ให้ใหม่ โดยเนื้อหาในโพสต์ระบุว่า “ตำแหน่งมันอยู่ไม่นานหรอกครับ #สงสารแฟน #อยู่ให้คนรักจากก็ต้องให้คนจำ #แชร์ไปครับ” โดยในแชทระบุว่า “วันนี้ประเมินเงินเดือน ที่ห้องประกัน แล้วเผลอนั่งเก้าอี้ ผอ.เพราะยกไปให้แล้วแกไม่นั่ง แกไปนั่งเก้าอี้ธรรมดา”
พร้อมแชทข้อความที่ ผอ.คุยกับแฟน โดย ผอ.บอกว่า แบบนี้แสดงออกถึงความไม่เหมาะที่ไปนั่งเก้าอี้ของ ผอ. และไม่สมควรอย่างยิ่ง และยังบอกว่าตอนสมัย
ผอ.เป็นครูก็ไม่เคยไปนั่งเก้าอี้
ผู้บริหาร เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่บังอาจไปเทียบบารมีของผู้บริหาร
จากแชทดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ครูสาวได้ขอโทษหลายครั้ง และบอกว่าครั้งหน้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก และ ผอ.ก็บอกว่า รู้สึกเสียใจ ไม่เคยมีครูคนใดมานั่งเก้าอี้ เสียใจจนแขนขาอ่อนแรง ผอ. และที่อึ้งไปกว่านั้นคือ ผอ.บอกว่าวันจันทร์ให้ไปซื้อเก้าอี้มาให้ใหม่อีกด้วย
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด วันที่ 16 มีนาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงข้อความที่ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนของตน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนไม่พอใจที่ครูนั่งเก้าอี้ของตน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทน นั้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการ ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 เร่งติดตามและตรวจสืบข้อเท็จจริงเชิงลึกในทันที
โดยในเบื้องต้นทาง สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการกลุ่มกฏหมายและคดี ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในวันนี้ (16 มีนาคม 2567) พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว มารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่โดยทันที ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมทั้งให้ความคุ้มครองครู และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และรายงานต่อ สพฐ. เป็นระยะ โดย สพฐ. เน้นย้ำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบ ได้ข้อมูลครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และได้กำชับให้คณะกรรมการเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อ สพฐ. ภายใน 7 วัน จากนั้นจะแจ้งผลความคืบหน้าให้สาธารณชนรับทราบต่อไป
“เรื่องสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเราไม่แบ่งแยกว่าเป็นผู้บริหารหรือระดับปฏิบัติการ
หากเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนทุกฝ่าย หรือหากพบว่ากระทำการที่ไม่เหมาะสมก็ต้องได้รับการพิจารณาโทษเป็นกรณีไป ทั้งนี้ หากพบเหตุที่ไม่เหมาะสมใดๆ ขอให้ส่งข่าวแจ้งเหตุมายัง สพฐ. เราพร้อมดำเนินทุกมาตรการเพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคนอย่างแท้จริง”