มิตรผล ชี้แจงแล้ว กรณีมีภาพหนุ่มเหยียบน้ำตาล ยืนยันโรงงานมีมาตรฐาน

29 เมษายน 2567

โรงงานน้ำตาลมิตรผล ชี้แจงแล้ว กรณีมีภาพหนุ่มเหยียบน้ำตาล ยืนยันโรงงานมีมาตรฐาน สะอาดไม่มีปนเปื้อน วอนหยุดแชร์ต่อ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเหยียบน้ำตาลทรายขาวที่อยู่บนพื้น และอีกมุมหนึ่งก็จะเห็นว่า มีคนกำลังกวาดน้ำตาลทรายอยู่ พร้อมแคปชั่น "ที่กินกันทุกมื้อ ก็ต้องผ่านเท้าผมก่อน" ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย. 67 ทางด้าน โรงงานน้ำตาลมิตรผล ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า

มิตรผล ชี้แจงแล้ว กรณีมีภาพหนุ่มเหยียบน้ำตาล ยืนยันโรงงานมีมาตรฐาน

สืบเนื่องจากกรณีที่มีการโพสต์ภาพการบรรจุน้ำตาลที่ไม่ได้มาตรฐานลงบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567

ทั้งนี้ เมื่อโรงงานฯ ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้เร่งให้ฝ่ายผลิตน้ำตาลและฝ่ายควบคุมคุณภาพของโรงงานฯ ดำเนินการตรวจสอบระบบการผลิตและบรรจุของน้ำตาลดังกล่าวโดยละเอียดทันที ซึ่งจากผลการตรวจสอบ โรงงานฯ ขอเรียนชี้แจงว่า

1. ห้องที่อยู่ในภาพดังกล่าว เป็นห้องบรรจุน้ำตาลที่อยู่ในระหว่างการปิดปรับปรุง ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา โดยภาพน้ำตาลที่เห็นคือน้ำตาลที่ค้างอยู่ในท่อบรรจุ ซึ่ง ณ วันที่มีการเผยแพร่ภาพ โรงงานฯ อยู่ระหว่างดำเนินการทำความสะอาดห้องและขนย้ายน้ำตาลทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ และป้องกันมิให้กลับไปสู่กระบวนการบริโภค

มิตรผล ชี้แจงแล้ว กรณีมีภาพหนุ่มเหยียบน้ำตาล ยืนยันโรงงานมีมาตรฐาน

2. กระบวนการผลิตน้ำตาลของโรงงาน ฯ เป็นระบบปิดที่ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติตลอดทั้งกระบวนการ ภายใต้อุณหภูมิความร้อนสูง 65-100°C นอกจากนี้ กระบวนการผลิตและบรรจุสินค้ายังได้รับการรับรองมาตรฐานสากล GMP&HACCP และ FSSC 22000 จึงมั่นใจได้ว่ามีความสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตและมีการควบคุม ตรวจสอบการขนส่ง เคลื่อนย้าย การจัดเก็บอย่างถูกสุขลักษณะ ด้วยการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามระยะความถี่ที่เหมาะสม

โรงงานฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า การเผยแพร่ภาพการบรรจุน้ำตาลที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือทุกท่านงดนำเสนอ เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลและภาพดังกล่าวเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในสังคม

สุดท้ายนี้ โรงงานฯ ขอเรียนยืนยันถึงมาตรฐานและการควบคุมการผลิตน้ำตาลทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นอันดับแรก