รถพังคาปั๊มน้ำมัน เติมน้ำมันแต่ดันได้น้ำก๊อก โดนค่าซ่อมหลักแสน

 รถพังคาปั๊ม เติมน้ำมันแต่ดันได้น้ำก๊อก โดนค่าซ่อมหลักแสน 

เรื่องราวจากผู้ใช้ เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ร้องเรียน หลังไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง แต่กลับพบว่า น้ำมันที่เติม ไม่เหมือนเป็นน้ำมัน ลักษณะเหมือนน้ำขุ่นๆ มากกว่า โดยระบุข้อความว่า “ขอพลังเพื่อนๆ ช่วยแชร์ด้วยค่ะ ทางปั๊มไม่ยอมรับผิดชอบ ไม่ยอมมาเจรจาอะไรทั้งนั้นค่ะ ทางตำรวจโทรไปก็บ่ายเบี่ยงที่จะคุย เพราะเขาแจ้งว่าคดีแพ่ง ไม่ใช่อาญา เราแจ้งกรมพลังงานไปแล้ว แต่ทางปั๊มได้มีการเปลี่ยนถ่ายล้างถังน้ำมันในคืนที่เกิดเหตุไปแล้วค่ะ ฝากเพื่อนๆ ช่วยเราเป็นกระบอกเสียงที ตอนนี้เราต้องมาจ่ายค่าซ่อมรถแสนกว่าบาท ค่าเช่ารถอีกทั้งที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย"
 

ผู้เสียหายยังมีคลิปวิดีโอ ตอนตรวจสอบด้วยการกดหัวจ่ายของปั๊มน้ำมัน กดใส่แกลลอนดู พบว่า ไหลแรงมาก แต่ที่ไหลออกมาลักษณะไม่เหมือนน้ำมัน เหมือนน้ำก๊อกขุ่นๆ และที่หน้าปัดรถยนต์ขึ้นไฟแจ้งเตือนเลยว่า มีน้ำอยู้ในถังน้ำมันและระบบตัวกรอง

ผลการตรวจเช็กสภาพรถจากทางศูนย์รถยนต์ และใบเสนอราคาที่ต้องซ่อม 120,000 กว่าบาท เนื่องจากน้ำเข้าระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ทางศูนย์ประเมินราคาตามความเสียหาย อาจเกิดขึ้นจากน้ำที่เข้าไปผสมในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้อุปกรณ์ภายใน ปั๊มแรงดัน ท่อรางหัวฉีด และหัวฉีดในถังเสียหายได้ ดังนั้นการประเมินที่แจ้งไปจึงเป็นรายการที่จำเป็นต้องเปลี่ยน
 

เจ้าของรถเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า เรื่องราวที่ตนเองต้องประสบพบเจอ ทำให้รู้สึกเครียดมากจนคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะผ่านมา 1 อาทิตย์ ทางเจ้าของปั๊มขาดการติดต่อไปเลย และยังไม่แสดงความรับผิดชอบ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น 22 เมษายนที่ผ่านมา ตนเองและสามี เดินทางไปอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปดูสถานที่ สำหรับการทำกิจกรรมอาสาเอาของไปบริจาคให้กับโรงเรียนในชนบท ซึ่งขากลับ รถกระบะฟอร์ด 4 ประตูของตนเองน้ำมันใกล้หมดสามารถวิ่งได้อีก 6 กิโลเมตร

ตนจึงหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งก็มีแค่ปั๊มนี้ ปั๊มเดียว พอเลี้ยวรถเข้าไปก็สั่งพนักงานเติมน้ำมัน ดีเซล B7 จำนวน 1,000 บาท ขณะเติมยอมรับว่าสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้อยู่ เติมได้ประมาณไม่ถึง 10 นาที เครื่องมีอาการสั่นและกระตุก แล้วก็ดับ จากนั้นมีสัญญาณเตือนขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถ " Water in fuel drain filter มีน้ำในถังน้ำมันและ ท่อกรอง"

ตนและสามี ก็ลงไปสอบถามกับพนักงาน ระหว่างที่พนักงานตรวจสอบ ปรากฏว่า มีชาวบ้านคนอื่นๆเดินทางมาโวยที่ปั๊มเหมือนกันว่า รถตัวเองก็เสียหลังจากเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้ได้ไม่นาน มีรถอีแต๋น, รถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ของชาวบ้าน รวมประมาณ 3 คัน

ตนจึงบอกพนักงานว่าอาจจะเกิดจาก น้ำเข้าไปปนกับน้ำมันจึงให้ทดสอบด้วยการ กดหัวจ่าย ใส่ถังน้ำ ปรากฏว่าไหลแรงมาก เหมือนน้ำก๊อก แต่ที่ไหลออกมาดูเหมือนไม่มีน้ำมันเจือปนอยู่เลย ดูจากภาพนิ่งจะเห็นว่าจะมีคราบน้ำมันลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำเล็กน้อย

พนักงานปั๊มเห็นแบบนั้นก็ตกใจรีบโทรศัพท์ ตามเจ้าของปั๊ม พอเจ้าของปั๊มมาถึง ก็ยอมรับว่ามีน้ำเข้าไปปนในถังน้ำมันจริงแต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเข้าไปบนได้อย่างไรซึ่งบอกกับผู้เสียหายว่ายินดีรับผิดชอบ ค่าซ่อมค่าเสียหายทั้งหมด

ทางเจ้าของรถฟอร์ดก็ตามประกันและเรียกรถยกมาค่ารถยก 7,000 กว่าบาท ทางเจ้าของปั๊มบอกว่าแพงเดี๋ยวเอารถยกแถวนี้ ราคา 4-5,000 บาท หลังจากยกรถกลับมาเข้าศูนย์เพื่อเช็ก ราคาค่าซ่อมแซม อยู่ที่ 120,000 กว่าบาท

เจ้าของปั๊มขอต่อราคาและบอกให้ไปหาซ่อมอู่ถูกๆ ซึ่งตนเองและสามีก็ไปตระเวนหาอู่ซ่อมรถ แต่ไม่มีอู่ไหนที่รับทำ เพราะระบบของรถต้องเข้าศูนย์เฉพาะทาง ถึงมีอู่ที่รับทำถ้าเปลี่ยนอะไหล่แท้ ราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก เจ้าของปั๊มบอกด้วยว่า มีให้แค่ 30,000 บาท ราคาที่เสนอมาแพงเกินไป รถชาวบ้าน อีก 3 คันซ่อมยังไม่แพงเท่านี้

ตนและสามีเห็นท่าไม่ดีจึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาหลังจากนั้นพยายามติดต่อเจ้าของปั๊มน้ำมัน แต่เจ้าของปั๊มน้ำมันเงียบกริบ ตำรวจบอกว่ามันเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญาตำรวจทำได้เพียงเชิญเจ้าของปั๊มมาให้ข้อมูลซึ่งพยายามติดต่อไปแล้วแต่เจ้าของปั๊มบอกว่าไม่ว่าง ตำรวจก็จะไปเคี่ยวเค้นกดดันมากไม่ได้

ตนและสามี รู้สึกหมดหนทางมืดแปดด้าน จึงโพสต์ลงโซเชียลขอให้มีคนมาช่วยเหลือ ตอนนี้ลำบากมากเพราะเป็นรถคันแรกและรถคันเดียวของครอบครัว ทุกวันนี้ต้องเช่ารถรายวัน วันละพันกว่าบาท ส่วนรถฟอร์ดที่พังยังจอดอยู่ที่ศูนย์ฯ ยังไม่ได้ซ่อมเพราะยังไม่มีใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 120,000 บาท , ตน รู้สึกเครียดจนอยากคิดสั้น จึงอยากวอนขอให้เจ้าของปั๊มช่วยเห็นใจ รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

 

 

Cr. อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6