อ่วมหนัก "นายก อบต.เสียว" โดนศาลตัดสินจำคุก 1,825 ปี
อ่วมหนัก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสียว อ.เบญจลักษ์ โดนศาลตัดสินจำคุก 1,825 ปี พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัคร - เลือกตั้งไม่เกินสิบปี
จากกกรณีที่ไม่นานมานี้ มีรายงานว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีใจความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง ผลคำพิพากษาของศาลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด โดยนายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ
โดยกล่าวว่า สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 73/2562 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 มีมติเห็นชอบมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 กรณีกล่าวหานายธนกฤต ดุษฎีกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กับพวก มีส่วนได้เสียในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ขององค์การบริหารส่วนตำบลเสียว
โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้มีคำพิพากษาว่า
จำเลยที่ 1 นายธนกฤต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม)152 (เดิม) รวม 365 กระทง นายอภิวัฒน์ ภักดี
จำเลยที่ 2 นายหนูเหลี่ยง พันธ์ดี
จำเลยที่ 3 นายเคน ปัสราษฎร์
จำเลยที่ 4 และนายธันยบูรณ์ พวงบุตร
จำเลยที่ 5 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 (เดิม) 152 (เดิม)
ประกอบมาตรา 86 จำเลยที่ 2 รวม 194 กระทง จำเลยที่ 3 รวม 169 กระทง จำเลยที่ 4 รวม 68 กระทง จำเลยที่ 5 รวม 30 กระทง ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) 152 (เดิม) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) 152 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ
ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน
มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
จำเลยที่ 1 จำคุก 1,825 ปี
จำเลยที่ 2 จำคุก 582 ปี 776 เดือน
จำเลยที่ 3 จำคุก 507 ปี 676 เดือน
จำเลยที่ 4 จำคุก 204 ปี 212 เดือน
จำเลยที่ 5 จำคุก 90 ปี 120 เดือน
แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจำคุกจำเลยทั้งห้าคนละไม่เกิน 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) กับให้จำเลยที่ 1 พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 27 ธันวาคม 2565) และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยที่ 1
และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 81 ประกอบมาตรา 93 วรรคสอง
อนึ่ง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน ได้รายงานตามหน้าที่และอำนาจตามที่นายอำเภอเบญจลักษ์เสนอ โดยให้เหตุผลนายธนกฤต ดุษฎีกุล พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสียวในวาระดังกล่าวแล้ว 6 ปี 2 เดือน
จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินการสั่งให้นายธนกฤต ดุษฎีกุล และนายอภิวัฒน์ ภักดี พ้นจากตำแหน่งได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องสอบสวนตามมาตรา 90/1 และมาตรา 92 ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
และแก้ไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุดผู้ถูกกล่าวหา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด