กฟน. น้อมรับผิด หลังเกิดเหตุสลด แจงสาเหตุใช้ไม้อัด แทนแผ่นโลหะปิดฝาท่อ
นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่เหตุสลดชายพลัดตกท่อพักสายไฟเสียชีวิต รับเป็นความผิดกฟน. แจงสาเหตุใช้ไม้อัด แทนแผ่นโลหะปิดฝาท่อ
วันที่ 3 พ.ค.67 จากเหตุสลดชายพลัดตกท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง ลึก 15 เมตรเสียชีวิต ย่านลาดพร้าว จากการตรวจสอบพบว่าฝาท่อเป็นไม้อัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจและเครื่องมือ นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากท่อ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ล่าสุด กฟน.ยอมรับผิด แจงสาเหตุใช้ไม้อัด แทนแผ่นโลหะปิดฝาท่อ จนเกิดเหตุสลดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่าช่วงเวลาประมาณ 9.30 น. มีผู้พลัดตกท่อระหว่างเกาะกลางถนนหน้า ซ.ลาดพร้าว 49 จึงได้ทำการเข้าค้นหาภายในท่อดีงกล่าว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในท่อดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์พิเศษและผู้เชี่ยวชาญเพื่อลงไปนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา
นายโอ๊ะชัย แสงพล พนักงานเทศกิจสำนักงานเขตวังทองหลางและนางสาวยุวดี บุญพิทักษ์ พนักงานรักษาความสะอาด เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังปฏิบัติงานเทศกิจดูแลความเรียบร้อยบริเวณตลาดสะพาน 2 ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 49 เห็นชายคนหนึ่งความสูงประมาณ 170 เซนติเมตร รูปร่างท้วม กำลังข้ามถนนจากฝั่งตรงข้ามตลาด แต่เมื่อถึงบริเวณเกาะกลางถนน ชายคนดังกล่าวตกลงไปต่อหน้าต่อตา จึงวิ่งไปดู พบว่าชายคนดังกล่าวตกท่อร้อยสายไฟ ตัวเองพยายามเรียก ชายคนที่ตกลงไปพยายามเงยหน้าขึ้นมาก่อนหมดสติไป
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบว่าท่อดังกล่าวมีความลึกหลายเมตร โดยระดับน้ำภายในท่อมีความลึก 2 เมตร ภายในท่อระบายน้ำไม่มีจุดพักทำให้ผู้ที่พลัดตกลงไปตกน้ำโดยทันที จากการสำรวจยังพบภายในท่อระบายน้ำจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต มีอากาศเข้าออกซิเจนอยู่ที่ร้อยละ 20 ซึ่งถือว่าเบาบางมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจและอุปกรณ์โรยตัว เข้าช่วยเหลือ โดยทำการเปิดฝาท่อที่ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไปประมาณ 2 เมตร นำพัดลมเป่าลมเข้าเพื่อให้มีอากาศภายในท่อ จากนั้นนำเครื่องติดตั้งสลิงแบบเคลื่อนที่ ติดตั้งไว้บริเวณเหนือบ่อ ก่อนใช้สลิงดึงร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ ประมาณ 55-60 ปี รูปร่างอ้วน สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ค้นในตัวไม่พบเอกสาร มีเพียงกุญแจบ้าน 1 พวง จากนั้นจึงนำศพส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรพลิกศพ ส่วนสาเหตุที่คาดว่าน่าจะทำให้ชายรายดังกล่าวที่ตกลงไปหมดสติ อาจจะเกิดจากการกระแทกขอบปูนหรือเกี่ยวกัยสายเคเบิ้ล ทำให้มีอาการจุกและจมน้ำเสียชีวิต ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต้องรอแพทย์ชันสูตรพลิกศพเพื่อยืนยันอีกครั้ง
พันตำรวจเอกเศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโชคชัยโชคชัยมี 4 เปิดเผยว่า จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใด เบื้องต้นได้นำฝาท่อในจุดที่เกิดเหตุซึ่งเบื้องต้นเป็นป่าไม้อัด นำส่งพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ พร้อมกับสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทหรือไม่ โดยเบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมาปิดกั้นบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนขึ้นอีก
ด้านประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า "คนส่วนใหญ่ที่จะข้ามถนนในบริเวณนี้จะเป็นผู้สูงอายุที่เดินขึ้นสะพานลอยไม่ไหว" ซึ่งสะพานลอยแต่ละจุดอยู่ห่างกันประมาณเกือบ 1 กิโลเมตร ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำฝาท่อให้แข็งแรง ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเคยมีจุดข้ามทางม้าลาย ซึ่งทุกวันนี้กลับไม่มีอยู่ในพื้นที่ จึงอยากให้กลับมาทำจุดข้ามสำหรับผู้สูงอายุอีกครั้ง
เวลา 13.00 น. นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า จุดเกิดเหตุอยู่ในระหว่างดำเนินการร้อยสายไฟใต้ดิน ของการไฟฟ้านครหลวงโดยมีบริษัทผู้รับเหมารับช่วงต่ออยู่ในขณะนี้ เดิมทีฝาท่อดังกล่าวเป็นโลหะ แต่ประสบปัญหาถูกคนขโมยฝาท่อไป กว่า 150 ชิ้น หรือเกือบทั้งหมดโครงการ จึงทำให้ผู้รับเหมาใช้ไม้อัดหนาประมาณ 10 มิลลิเมตร เข้ามาปิดฝาท่อเพื่อทำการทดแทนชั่วคราว ระหว่างรอสั่งทำแผ่นคอนกรีตมาปิดบริเวณฝาท่อ
ซึ่งทางผู้รับเหมามองว่าความหนาระดับดังกล่าวแข็งแรงเพียงพอแล้วจุดบริเวณที่เกิดเหตุไม่ใช่จุดสำหรับคนข้ามถนนจึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หลังจากนี้จะทำการสำรวจฝาท่อทั้งหมดที่เป็นแผ่นไม้ และนำแผ่นคอนกรีตมาปิด รวมถึงติดตั้งสัญลักษณ์แจ้งเตือนสำหรับผู้สัญจร กำหนดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
"ทั้งนี้ยังขอยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการประมาทของการไฟฟ้านครหลวง พร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยยืนยันว่าพร้อมจะชดเชยเยียวยาและรับผิดชอบกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้อีก"