เผยผลชันสูตร "ลุงกำธร" ตกท่อร้อยสายไฟฟ้าดับ สะเทือนใจสาเหตุเสียชีวิต
เปิดผลชันสูตรเบื้องต้น ลุงกำธร ตกท่อพักสายไฟฟ้าดับสลด แพทย์เผยผลชันสูตรเบื้องต้น รู้สาเหตุเสียชีวิตยิ่งสะเทือนใจ
วันที่ 4 พ.ค. 2567 คืบหน้าล่าสุดเหตตสลดลุงกำธรตกท่อเสียชีวิต ญาติได้เดินทางมารับร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนเปิดใจกับสื่อมวลชชน พร้อมเผยผลชันสูตรเบื้องต้นและการฟ้องร้องเรียกค่าเยียวยาจากทางกฟน.10 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดที่จะสามารถฟ้องร้องได้
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ทางญาติได้เดินทางมาขอรับ "ลุงกำธร" วัย 59 ปี ที่เดินพลัดตกท่อร้อยสายไฟฟ้าของ กฟน. ลึก 15 เมตร ใกล้ซอยลาดพร้าว 49 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา สวดพระอภิธรรมศพ ที่ ศาลา 16 วัดธาตุทอง ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 วัน และจะทำพิธีฌาปนกิจ วันจันทร์ เวลา 17.00 น.
โดยญาติ "ลุงกำธร" กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานได้ติดต่อเข้ามาเพื่อแสดงความเสียใจ ทั้ง ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โทรมาขอโทษและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้เล็กน้อย ไปจนถึง สส.เขตวังทองหลาง พรรคก้าวไกล และเลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อช่วยประสานให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัว อีกทั้งยังมีบุคคลที่รู้จักที่จะเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานศพให้ทุกบาททุกสตางค์
ผลชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น พบว่านายกำธรเสียชีวิตจากสาเหตุจมน้ำตายและกระดูกต้นคอหัก
ส่วนเรื่องการฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้มีการหารือกับคนในครอบครัวและเพื่อนแล้ว ลงความเห็นว่าจะฟ้องร้องเยียวยาค่าเสียหายกับการไฟฟ้านครหลวงเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพราะเป็นวงเงินสูงสุดที่จะสามารถฟ้องร้องได้
แต่เชื่อว่าคงมีการเจรจาต่อรองกัน ซึ่งตนเองอยากให้เห็นใจทางครอบครัว โดยเฉพาะพี่สาวคนโตที่ปกติจะอยู่กับผู้เสียชีวิตด้วยกัน 2 คนมาตลอด แต่หลังจากนี้พี่สาวซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวานกับความดัน คงจะต้องอยู่เพียงลำพัง
ทางญาติได้เผยอีกด้วยว่า "สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนให้การไฟฟ้านครหลวงที่ต้องออกมารับผิดชอบและเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนการทำท่อร้อยสายไฟ แต่บางทีอาจจะเป็นความโชคร้ายของนายกำธรที่มาเดินข้ามและเหยียบแผ่นไม้พอดี เพราะปกติเวลาเขาข้ามถนนจะข้ามบริเวณหน้าบ้านซึ่งไม่มีการวางแนวท่อแต่อย่างใด หลังจากนี้ทางครอบครัวจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้ถึงที่สุด เพราะการสูญเสียนายกำธรนั้น สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากที่ผ่านมานายกำธรจะเป็นคนที่คอยดูแลพี่สาวคนโตอีก 2 คน ซึ่งหลังจากนี้ตนจะต้องเข้ามาดูแลพี่สาว 2 คนแทน ทำให้ครอบครัวนะตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะตนก็มีหน้าที่การงานและอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล นายกำพลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ปกติวันเสาร์อาทิตย์จะมารับผู้ตายไปหาอะไรทาน แต่หลังจากนี้ไม่มีเขาอยู่แล้ว ตนมองว่าต่อให้ได้เงินทองมามากเพียงใด ก็ไม่สามารถชดเชยกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้"