เผยสภาพจิตใจล่าสุด พิมพ์ กรกนก หลังเกิดเหตุคลิปหลุด จ่อออกหมายเรียกแฟนเก่า
เผยสภาพจิตใจล่าสุด พิมพ์ กรกนก หลังเกิดเหตุคลิปหลุด ล่าสุดแจ้งความเอาผิดคนปล่อยคลิปลับแล้ว จ่อออกหมายเรียกแฟนเก่าสอบปากคำ ใช้เครื่องมือพิเศษของตำรวจไซเบอร์
จากกรณีคลิปหลุด พิมพ์ กรกนก นางแบบและเน็ตไอดอลสาวชื่อดัง ล่าสุดวันที่ 13 พ.ค.67 พิมพ์ กรกนก ได้เดินทางไปแจ้งความ ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึงผบก.สอท.1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับคลิปหลุดพิมพ์ทั้งหมดแล้ว
เผยสภาพจิตใจล่าสุด พิมพ์ กรกนก ซึ่งน้องพิมพ์ ได้หยุดชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบคำถามนักข่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ตอนนี้เริ่มมีสภาพจิตใจที่โอเคขึ้น เพราะมีหลายคนที่ส่งกำลังใจให้ รวมทั้งหลายคนก็ให้เกียรติด้วยการไม่แชร์ต่อและช่วยกันกด Report คลิป อีกทั้งยังมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายเข้ามาให้การช่วยเหลือ
พร้อมทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายกับตนด้วย ซึ่งขอความเห็นใจแก่โซเชียลมีเดียว่า โปรดให้เกียรติตน หากเห็นคลิปดังกล่าว ก็ขอไม่แชร์ต่อ อย่าดู หรือช่วยกันกด Report จะดีที่สุด ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้มาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทางกฎหมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่าหลังจากนี้ นอกจากจะต้องให้ทางพนักงานสอบสวนหญิงสอบปากคำน้องพิมพ์แล้ว จะใช้เครื่องมือพิเศษของตำรวจไซเบอร์ในการตรวจวิเคราะห์บรรดา Social Media ต่าง ๆ ที่มีการแชร์คลิป รวมทั้งจะออกหมายเรียกแฟนเก่า ของน้องพิมพ์ ซึ่งถือเป็นต้นตอหลักมาให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
โดยจะดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นำคลิปมาเผยแพร่และแชร์ต่อ ไปจนถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มแชร์คลิป ซึ่งจะเอาผิดทั้งตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ม.328 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 2 ปี และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ม.287 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี อีกทั้งจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(4) และ (5) ทั้งนำเข้าข้อมูลลามกสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลลามกดังกล่าว ซึ่งต่างมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี
เน้นย้ำว่า นอกจากจะเอาผิดถึงผู้ที่นำคลิปมาลงในโซเชียลมีเดียแล้ว จะเอาผิดถึงคนที่แชร์ต่อตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ใครเป็นคนแชร์ คนนั้นก็มีความผิดด้วย ซึ่งถ้าหากตรวจสอบแล้วสามารถพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้แชร์บ้าง ก็จะออกหมายเรียกมาดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้น
ขณะที่นายเอกภพ เปิดเผยว่า คดีนี้นั้น แฟนเก่าคู่กรณีไม่ใช่คนที่เป็นคนสัญชาติเกาหลีที่มีชื่อเสียงตามที่มีหลายคนตั้งข้อสงสัย แต่เป็นคนที่คบหากันหลังจากเลิกรากับคนเกาหลี ซึ่งตนได้ย้อนถามไปยังคนที่นำคลิปมาปล่อยว่า เป็นเรื่องที่น่าอายและทำไปเพื่ออะไร
ในส่วนของแฟนเก่า พิมพ์ กรกนก ซึ่งออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้เป็นคนทำ ตนตั้งข้อสงสัยว่า แล้วคลิปหลุดไปได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่ยอมลบคลิปดังกล่าวตามที่ตกลงกัน มองว่าต่อให้อ้างว่านำโทรศัพท์มือถือไปส่งซ่อมแล้วคลิปหลุดจากช่างซ่อมมือถือนั้น ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ซึ่งหวังว่าทางตำรวจไซเบอร์จะสามารถนำคนผิด โดยเฉพาะผู้แชร์คลิปและผู้ลงคลิปกระจายสู่โซเชียลมีเดียมาดำเนินคดีให้ได้