เผยพินัยกรรม "บุ้ง ทะลุวัง" ยกมรดกพร้อมแมว 1 ตัว ให้ "น้องหยก" หลังเสียชีวิต
เผยพินัยกรรม "บุ้ง ทะลุวัง" มอบทรัพย์สิน - มรดกให้กับน้องหยก พร้อมแมวชื่อโซด้วย 1 ตัว หลังหัวใจหยุดเต้นเสียชีวิต
วันที่ 14 พ.ค.2567 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บุ้ง ทะลุวังหัวใจหยุดเต้น โดยทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แจ้งว่า น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง หัวใจหยุดเต้น ตอนช่วง 6 โมงเช้า เจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอยู่ ล่าสุดมีรายจากทีมแพทย์พยายามช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษายัง รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เข็นร่างจากห้องฉุกเฉิน มาชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินตามมาด้วย 2 นาย ด้านเจ้าหน้าที่นิติเวชยืนยันว่า มีรายชื่อ น.ส.เนติพร มาที่ห้องนิติเวช เพื่อชันสูตรจริง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่
ก่อนหน้านี้ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง อายุ 29 ปี แกนนำกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกคุมขังตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทำพินัยกรรมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 2 ก.พ. 67 แสดงเจตนาในการจัดการทรัพย์สินของตน ภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว
พบว่าทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของตนที่มีเก็บรักษาไว้ และที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งทรัพย์สินคือ นาฬิกาข้อมือ ต่างหู และสัตว์เลี้ยงคือแมวชื่อโซ 1 ตัว ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ น.ส.หยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนทรัพย์สินอื่นนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น อันรวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดกใดที่ตนพึงมีอยู่ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย ขอยกให้แก่พี่สาวของตนแต่เพียงผู้เดียว และภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว ขอมอบให้ทนายความเป็นผู้จัดการมรดกของตนตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ
หากปรากฏว่า ณ วันที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น มีพินัยกรรมใดๆ ที่ปรากฏว่าได้ทําก่อนหน้า ให้ถือว่าพินัยกรรมที่ได้ทําก่อนหน้านั้นถูกยกเลิกทุกฉบับ ยืนยันว่าข้อความตามพินัยกรรมฉบับนี้เป็นไปตามเจตนาของตนทุกประการ ในขณะที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ ตนเข้าใจข้อความแห่งพินัยกรรมนี้เป็นอย่างดีและเห็นว่าตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน
รู้จัก บุ้ง ทะลุวัง คือใคร
บุ้ง ทะลุวัง ประวัติ เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ที่เรียนจบมัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี บุ้งจึงทำงานเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสามารถสร้างรายได้ได้ดี
ที่มาภาพจาก ทะลุวัง - ThaluWang