สาวใหญ่ เหยียบคันเร่งมิด ชนกระบะตก ที่จอดรถชั้น 4 รพ.ดัง หลังตกใจ โดนรถขับจี้
เปิดกล้องวงจรปิดวินาที สาวใหญ่ตกใจเหยียบคันเร่งพุ่งชนกระบะตกจากอาคารจอดรถชั้น4 หวิดดับ แต่โชคดีไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
กรณี วันนี้ 15 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุการสุดระทึกว่า เกิดอุบัติเหตุรถตกลงจากชั้น 4 ของอาคารลานจอด ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงรุดตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
โดยทางทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ พลิกตะแคงอยู่บนถนน ในสภาพพังยับเยิน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำรถกระบะคันที่เสียออกจากพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว แต่รถปิกอัพคู่กรณียังคงจอดอยู่ที่ชั้น 4 ในสภาพฝากระโปรงหน้ารถพังยับเยิน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอาคารลานจอดชั้น 3 สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ เมื่อเวลา 07.24 น. บริเวณลานจอดรถชั้น 4 มีรถกระบะสีทองขึ้นมาจากทางลาด ก่อนเสียจังหวะพุ่งชนกับรถกระบะสีดำที่จอดอยู่ในช่องจอด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้รถกระบะคันดังกล่าว ถูกชนจนตกลงมาจากด้านบน พังเสียหายยับเยิน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนนั้งอยู่ในรถกำลังเคลียร์งานอยู่ เห็นรถขึ้นมาจากชั้น 3 A ขับขึ้นมาชั้น 3B คาดว่าเป็นเพราะความตกใจเพราะคนขับเป็นผู้หญิงอายุราว40-50ปีได้ขับมาชนรถกระบะที่จอดอยู่จึงตกใจเหยียบคันเร่งค้างดันรถกระบะไหลตกไปข้างล่าง โชคดีที่บริเวณที่รถตกลงไปไม่มีคน โดยหลังจากเกิดเหตุคนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิงก็นั่งรอมอบให้การอยู่ที่เกิดเหตุและมีท่าทีตกใจและไม่มีอาการมึนเมา
เบื้องต้นทางผู้เสียหายและคู่กรณีได้เข้าไกร่เกลี่ยกันที่ สน.พญาไท ซึ่งผู้เสียหาย อายุ 33 ปี ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เธอรักและผูกพันกับรถคนนี้มาก เพราะอยู่ด้วยกันมานานกว่า 18 ปี คอยขับขนของมาขายที่โรงพยาบาลอยู่ทุกวัน แต่สภาพรถที่เห็นคือพังเยิบเยินคาดว่าคงจะซ่อมกลับมาใช้งานไม่ได้อีกแล้ว ส่วนค่าเสียหายที่ได้คุยกับคู่กรณีก็ไม่มีปัญหาอะไรคงจะเคลียร์จบกันได้
ในส่วนของคู่กรณีไม่ขอให้ข้อมูลอะไร เพราะยังอยู่ในสภาพตกใจ เธอได้บอกเพียงสั้นๆ กับทีมข่าวว่า มีรถขับจี้ตามหลังมาระหว่างขับขึ้นโค้งจะไปหาที่จอด เธอเลยตกใจเผลอเหยียบคันเร่งจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และได้ขอโทษกับผู้เสียหายแล้ว เหตุเกิดหลังจากตนมาส่งคนป่วยและมาหาหมอ ตนจึงขึ้นมาลานจอดรถกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว