เปิดใจ "เสี่ยปุ๊ เจ้าของทอง 49 บาท" จะทำไงกับลุงต่อ ลั่น จับได้เพราะพระทัก
เปิดใจเจ้าของทอง 49 บาท หรือ "เสี่ยปุ๊" หลังจับ ลุงแท็กซี่เก็บทองได้ไม่คืน ไม่น่าเชื่อจะเอ่ยคำนี้ออกมา ลั่นเป็นเพราะพระทัก
กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก กรณี "แท็กซี่เก็บทอง 49 บาทได้" หลังจากที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับลุงแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท ย่านนางเลิ้ง ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ อ้างนำทองไปขายเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นทองจริงหรือไม่ ส่วนที่เหลือตำรวจยืดคืนเป็นของกลางแล้ว
โดยจาการตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายของแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่ป้าไพรินทร์อ้างทำทองตกครั้งแรก โดยจะเป็นพยานหลักฐานที่เชื่อว่า กระเป๋าที่คาดว่าบรรจุทองนั้นถูกเกี่ยวมากับรถคันหนึ่งจากฝั่งที่ป้าไพรินทร์อ้างว่าทำกระเป๋าหล่น ก่อนที่จะมีการยูเทิร์นรถมายังฝั่งตรงข้าม แล้วปรากฏภาพตามในวงจรปิดดังต่อไปนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท
อัพเดทความคืบหน้าล่าสุดทางด้าน เสี่ยปุ๊ หรือ นายชัยพร จริยธรรมานุกูล เจ้าของทอง 49 บาท ได้เปิดใจว่า ไม่ติดใจหากทองอยู่ไม่ครบ เชื่อโดยตลอดว่าจะได้ทองคืนเพราะมีพระบอกเอาไว้ ยันไม่ติดใจเอาความปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ด้านไพรินทร์เข็ดไม่กล้ารับส่งทองลูกค้าอีก พร้อมโล่งใจที่เจอทอง
เสี่ยปุ๊ ได้เดินมาที่ สน.บางยี่ขัน เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหลังจากที่ทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว ลุงคนขับแท็กซี่ที่เก็บทองไปได้ ซึ่ง เสี่ยปุ๊ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมว่า ดีใจมากที่ตำรวจสามารถติดตามตัวคนเก็บทองและนำทองกลับขึ้นมาได้
เสี่ยปุเผยอีกว่าวันนี้ได้มีการเตรียมตราชั่งทอง เพื่อมาพิสูจน์ว่าทองอยู่ครบหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ลุงได้นำทองไปขายจำนวน 2 บาท ส่วนตัวถือว่าเล็กน้อยไม่ได้ติดใจอะไร แต่การดำเนินคดีก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งวันนี้ตนอยากจะสอบถามกับลุงแท็กซี่ว่าเก็บทองไปแล้วทำไมถึงไม่นำมาคืน ทั้งๆ ที่ข่าวออกตลอดเวลา จึงเป็นข้อสงสัยที่จะต้องสอบถามในตัวลุง
ส่วนข้อมูลที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวลุงแท็กซี่ได้ มาจากคำทำนายของพระหรือไม่ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ที่พระได้มีการทักไว้ว่าจะได้ทองคำคืนในวันจันทร์และให้ไปตรวจสอบกล้องฝั่งตรงข้าม โดยมีพระทั้งหมดจำนวนสามรูปที่ทักมา ซึ่งรายละเอียดจะแถลงให้ทราบภายหลัง ในส่วนของเงินรางวัล 100,000 บาท ต้องรอพูดคุยรายละเอียดกับตำรวจว่าใครมีส่วนช่วยในการแจ้งเบาะแสบ้าง
ในขณะที่ น.ส.ไพรินทร์ ได้เดินทางมาถึง สน.บางยี่ขัน พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนที่จะเข้าไปห้องสืบสวนว่ารู้สึกโล่งที่เจอทอง และตนเองไม่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะที่ผ่านมารู้สึกเครียดและกังวลมาโดยตลอด กลัวว่าจะไม่พบทองแล้วจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามว่าโกรธลุงมั้ย น.ส.ไพรินทร์ตอบว่า ไม่โกรธ แต่อยากถามว่าทำไมไม่เอามาคืน และยอมรับว่าเข็ดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะไม่รับฝากทองไปให้ลูกค้านี้อีก โดยทางบริษัทก็มีนโยบายห้ามรับส่งทองให้กับลูกค้าอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นหน้าที่แต่ตนเพียงอยากอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า