พี่สาวร้องเพจดัง น้องเสียชีวิต ไปขอคัดใบมรณะบัตร พบมีลูกทิพย์ 2 คน พ่ออีก 1
พี่สาวร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังน้องสาววัย 55 ปี เสียชีวิต ไปขอคัดใบมรณะบัตร พบมีลูกชายทิพย์ 2 คน เจอพ่ออีก 1 คน
วันที่ 5 มิ.ย. 67 เวลา 12.00 น. ทางด้านเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม น.ส.ชฎาพร กันติ๊บ อายุ 57 ปี เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือกรณี น้องสาววัย 55 ปี เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ซึ่งตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่น้องสาวอยู่บ้านเดียวกับตนมาโดยตลอด ใช้ชีวิตเป็นคนโสด ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูก ไม่มีสามี เมื่อน้องสาวเสียชีวิต กลับพบว่ามีลูกชายทิพย์ 2 คน และพ่อทิพย์เพิ่มอีก 1 คน
นางชฎาพร กล่าวว่า ตนมีกันเพียง 2 คนพี่น้อง เมื่อน้องสาวเสียชีวิตจึงไปขอคัดเอกสารที่สำนักงานเขตสายไหม เพื่อมาติดต่อทำธุรกรรมต่างๆ ของน้องสาว แต่ จนท.สำนักงานเขต แจ้งว่าตนมาขอคัดไม่ได้ ต้องให้ลูกชายของผู้ตายเป็นคนมาขอคัด ตนจึงแจ้ง จนท.ไปว่าน้องสาวตนตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผัวเลยจะมีลูกได้ไง จนท.จึงเปิดหลักฐานให้ดูว่าน้องสาวมีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 37 ปี คนเล็ก อายุ 34 ปี พอเห็นอายุหลานชายคนโตยิ่งทำให้มั่นใจว่าเป็นหลานทิพย์แน่นอน
เนื่องจากเปรียบเทียบจากอายุหลานชายกับอายุของน้องสาวแล้ว ถ้าเป็นลูกน้องสาวของตนจริงๆ นั้น เท่ากับว่าน้องสาวตนต้องมีลูกตอนอายุเพียง 18 ปี ซึ่งขณะอายุ 18 ปีนั้น น้องสาวตนยังเรียนมัธยม ชั้น ม.5 อยู่เลยจะไปมีลูกได้อย่างไร ที่สำคัญตนเป็นคนทำงานส่งน้องเรียนหนังสือ เป็นคนไปรับไปส่งน้องที่โรงเรียนด้วยตัวเองทุกวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้องจะท้อง แต่ถูก จนท.ตอบกลับมาว่าน้องอาจจะไปแอบมีลูกก็ได้ ยังไงก็ต้องให้ตนไปตามหาลูกของน้องสาวตนมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถคัดเอกสารใดๆ ได้
จากนั้นตนได้ขอคัดถ่ายเอกสารเพิ่มเติมของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ยิ่งทำให้ตกใจขึ้นไปอีก เมื่อพบว่า มีพ่อทิพย์ เพิ่มมาอีก 1 คน โดยพ่อทิพย์มีอายุ 63 ปี ในขณะที่น้องสาวตนมีอายุ 55 ปี เท่ากับว่า พ่อทิพย์ มีลูกตอนอายุ 8 ขวบ ตนจึงแจ้ง จนท.ไปว่า ต้องมีการทุจริตสวมสิทธิบัตรประชาชน หรือสวมสิทธิข้อมูลทะเบียนราษฎร์อย่างแน่นอน จนท.จึงแนะนำให้ตนเดินทางมาขอความช่วยเหลือกับ ท่านเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดังกล่าว
ทางด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา มท.1 และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเชิงลึกว่าเกิดความผิดพลาดจากระบบ หรือมี จนท.ร่วมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด หากเป็นความผิดพลาดจากระบบก็จะต้องเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง แต่หากเกิดขึ้นจากการทุจริตของ จนท. ก็จะต้องมีการสอบสวนขยายผลเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป จึงขอฝากไปยังอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ขอให้เร่งสอบสวนเรื่องดังกล่าวให้เกิดควาทชัดเจนโดยเร็ว