สังคม

heading

"อ.เจษฎ์" แจงชัดเคส "ชายหญิง" เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

19 มิ.ย. 2567 | 13:01 น.
"อ.เจษฎ์" แจงชัดเคส "ชายหญิง" เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

"อาจารย์เจษฎ์" แจงชัดเคส "ชายหญิง" เสียชีวิตปริศนาภายในรถยนต์ ซอยพัฒนาการ12 แท้จริงไม่ใช่เพราะขาดอากาศหายใจ

จากกรณีพบ ชายหญิงเสียชีวิตภายในรถยนต์ บริเวณปากซอยพัฒนาการ 12 ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 นั้น ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย นอนอยู่ภายในรถเก๋งสีขาว จอดอยู่ข้างรถกระบะตู้ทึบ พบเปิดแอร์ไว้ และน้ำมันในถังรถใกล้หมด ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ต้องรอผลชันสูตรอีกครั้ง 

อ.เจษฎ์ แจงชัดเคส ชายหญิง เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading

 ต่อมาทราบชื่อภายหลังว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย คือ

1.นางวิลัยพรวันทนา 27 ปี แต่งกายใส่ เสื้อยืดคอกลมสีดำ กระโปรงยืนยาวสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่ฝั่งคนขับ มีอาชีพเป็นแดนเซอร์

2.นายวิโรจน์ โภชน์พันธ์ อายุ 24 ปีแต่งกายใส่เสื้อยืดสีขาว กางยืนสีดำมีกระเป๋าคาดอก 1 ใบนอนเสียชีวิตอยู่ฝั่งข้างคนขับ มีอาชีพเป็นเด็กเสิร์ฟ)

  อ.เจษฎ์ แจงชัดเคส ชายหญิง เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด


ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือ "อ.เจษฎ์" นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อธิบายเกี่ยวกับวสาเหตุการตายในเหตุการณ์นี้ว่า "เคส 'นอนเปิดแอร์ เสียชีวิตคารถ' อันนี้ ก็น่าจะจากการได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์ อีกล่ะครับ

อ.เจษฎ์ แจงชัดเคส ชายหญิง เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

นักข่าวโทรมาถามตอนเช้า ถึงข่าวน่าเศร้า ที่มีผู้เสียชีวิตระหว่างนอนหลับในรถยนต์ที่จอดติดเครื่องไว้นาน จนกระทั่งน้ำมันหมด รถดับไปเอง .. ว่าเป็นผลจากการขาดอากาศหายใจ นอนนานเกินไป ใช่หรือไม่? ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ ..

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต (ซึ่งต้องรอการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากแพทย์ด้วย) ผมคิดว่า ก็คงคล้ายกับรายอื่นๆ ก่อนหน้านี้ คือได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide) หายใจเข้าไประหว่างที่หลับ เม็ดเลือดแดงทำงานผิดปรกติ ร่างกายขาดก๊าซออกซิเจน จนเสียชีวิต ...

อ.เจษฎ์ แจงชัดเคส ชายหญิง เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

... ไม่ควรใช้คำว่า "ขาดอากาศหายใจ" ที่ทำให้เข้าใจผิดไปว่า ในรถ ไม่มี "อากาศ" เหลือให้หายใจ ตามรายงานข่าวระบุว่า  ในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เมื่อร้านอาหารปิด ผู้เสียชีวิตทั้งคู่ซึ่งมีอาการเมา ได้เข้าไปนั่งในรถ สตาร์ทรถเปิดแอร์ทิ้งไว้  จนกระทั่งช่วงค่ำของวันต่อมา ญาติถึงได้มาดูที่รถ พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และในรถไม่มีร่องรอยการรื้อค้น ประตูรถปิดล็อกทั้ง 4 บาน กระจกไม่ได้เปิด เพื่อให้อากาศระบาย


และข่าวระบุด้วยว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ทั้งคู่ขาดอากาศหายใจ เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นน้ำมันเบนซิน และสตาร์ตรถจนน้ำมันหมดถัง แล้วเครื่องยนต์จึงดับ จนทำให้ทั้งคู่ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต แต่ลักษณะตามข่าวดังกล่าวนี้ ผมเชื่อว่า น่าจะมาจากการได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่มาจากเครื่องยนต์ที่สันดาปเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างไม่สมบูรณ์ รั่วซึมเข้ามาในห้องโดยสารรถ ซึ่งไม่ได้เปิดกระจกระบายอากาศไว้ ทำให้ก๊าซเป็นพิษต่อเลือด และเสียชีวิตได้ในที่สุด 


ข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายเรื่อง "ทำไมเปิดแอร์นอนในรถยนต์ถึงเสียชีวิต?" ไว้ว่า โดยปกติ ขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนไปบนท้องถนน จะมีการไหลเวียนของอากาศภายนอกและภายในอยู่เสมอ ด้วยการถ่ายอากาศเสียออกทางท่อไอเสีย แล้วรับอากาศที่ดีเข้ามา แต่ถ้าหากรถยนต์จอดสนิท แล้วติดเครื่องเอาไว้ เครื่องยนต์จะเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ และทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ขึ้น โดยไม่มีการถ่ายเทออกไป อากาศเสียก็จะวนเวียนอยู่ภายใน ไม่ไปไหน ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย 


เพราะก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งออกซิเจนจับตัวกับเม็ดเลือดแดง ซึ่งจับได้ง่ายกว่าออกซิเจนหลายเท่า ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ ร่างกายจะขาดออกซิเจน และอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ เกิดอาการเลือดเป็นกรด ทำงานไม่ปกติ ซึม ชัก และเสียชีวิตในที่สุด โดยระดับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายจะอยู่ที่ 1-200 ppm เมื่อได้รับเข้าไปในเวลา 4 ชั่วโมง ร่างกายจะเริ่มอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย และเวียนศีรษะ จากนั้นจะอยากนอน 

 


ซึ่งถ้านอนเปิดแอร์โดยไม่ดับเครื่องยนต์ก็จะยิ่งส่งผลเสียและเป็นอันตรายถึงชีวิต สภาพของรถยนต์ ส่งผลต่อการเกิดก๊าซชนิดนี้ด้วยเช่นกัน โดยในรถยนต์เก่าหรือไม่มีการตรวจสภาพ จะเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ สูงกว่าในรถยนต์ใหม่ หรือผ่านการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้สูงกว่า อัตราการเสี่ยงของการเสียชีวิตจากการเปิดแอร์นอนจะสูงกว่า

 


แต่ ไม่ว่าจะรถยนต์เก่าหรือใหม่ ก็ไม่ควรเปิดแอร์นอนหลับในรถยนต์ขณะที่จอดสนิทอยู่ดี เพราะก๊าซชนิดนี้ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น ทำให้ไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้รับก๊าซชนิดนี้เข้าไปมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะขณะหลับ ดังนั้น จึงไม่ควรนอนหลับในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์ไว้ หรือหากจำเป็นต้องนอนจริงๆ ก็ให้เลือกจอดรถในพื้นที่โล่ง ที่อากาศถ่ายเทได้ และควรตั้งปลุกเวลานอน ให้งีบพักเพียงแค่ 15-20 นาที พอให้หายเหนื่อย อย่านอนหลับยาวครับ"

อ.เจษฎ์ แจงชัดเคส ชายหญิง เสียชีวิตคารถ แท้จริงไม่ใช่อย่างที่คิด

ขอบคุณข้อมูลจาก Jessada Denduangboripant
ภาพจาก NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ

ข่าวเด่น

ว่อนเอกสาร ว.วชิรเมธี เตือน หนุ่ม กรรชัย แห่งโหนกระแส อย่าทำตัวเป็นศาลเตี้ย

ว่อนเอกสาร ว.วชิรเมธี เตือน หนุ่ม กรรชัย แห่งโหนกระแส อย่าทำตัวเป็นศาลเตี้ย

World Film Festival of Bangkok 2024 จัดใหญ่ 7-17 พ.ย.นี้ คอนเซ็ปต์ "New Horizons"

World Film Festival of Bangkok 2024 จัดใหญ่ 7-17 พ.ย.นี้ คอนเซ็ปต์ "New Horizons"

เจอแล้ว น้องอมยิ้ม แม่ตามหาต่อไม่ได้ 4 ชม. ล่าสุดทีมสารวัตรแจ๊ะไปหาถึงห้อง

เจอแล้ว น้องอมยิ้ม แม่ตามหาต่อไม่ได้ 4 ชม. ล่าสุดทีมสารวัตรแจ๊ะไปหาถึงห้อง

ส่องชุด "มิน พีชญา" 1ใน 3 บอสดารา ขณะถูกคุมตัวไปขอฝากขัง

ส่องชุด "มิน พีชญา" 1ใน 3 บอสดารา ขณะถูกคุมตัวไปขอฝากขัง

ชีวิตล่าสุด "กบ อนุสรา" ภรรยา "ธเนตร" เจ้าพ่อขายตรงคนสนิท "บอสพอล" ดิไอคอน

ชีวิตล่าสุด "กบ อนุสรา" ภรรยา "ธเนตร" เจ้าพ่อขายตรงคนสนิท "บอสพอล" ดิไอคอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading