เปิดคำสารภาพ "บู๊ พี่ชายแจง" โชคดีจับได้ก่อน ไม่งั้นอาจเกิดเรื่องใหญ่
เปิดคำสารภาพ "บู๊ พี่ชายแจง ภรรยาแจ๊ส ชวนชื่น" หลังจับกุมตัวได้ โชคดีโดนจับบได้ก่อน ไม่งั้นอาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นอีก
วันที่ 22 มิถุนายน 2567 คืบหน้ากรณีจับกุม "บู๊ ภูมิพัฒน์" หรือ บู๊ พี่ชายแจง ภรรยาแจ๊ส ชวนชื่น เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. (สืบนครบาล) , กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันจับกุม นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.458/2567 ลงวันที่ 26 มี.ค. 67 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์” จับกุมที่ จุดตรวจทหารพรานที่ 1201 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
หลังโดนจับกุมก็บู๊ยังไม่สลด แจ้งว่า “ดีแล้วที่มาจับผม ไม่งั้นสัปดาห์หน้าผมจะกลับไปยิงมัน” ด้านผู้การจ๋อกล่าว “ไม่ขอรับรางวัล เป็นหน้าที่ สัมผัสได้ถึงความทุกข์ใจของครอบครัวผู้เสียหาย”
โดยในชั้นจับกุม นายภูมิพัฒน์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ในทางคดีตนไม่ได้เป็นคนขโมยเอารองเท้าไปตามที่ถูกแจ้งความ ตนเองโดนกลั่นแกล้งโดยใครบางคนเพราะตนเป็นคนชอบพูดตรงๆ แล้วตนเองก็เป็นคนที่ภาษีไม่ดีในวงเครือญาติ เพราะตนเองเคยก่อคดีร้ายแรงหลายคดี
และจากความเกเรในสมัยก่อนจึงค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองหนีเก่งคาดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ เลยพลั้งเผลอท้าทายเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้ง ขอโทษที่ทำลงไป ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ยอมรับว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่มาจับกุม จะกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อชำระแค้นไอพวกนี้ให้หมด”
หลังจับกุมตัวได้ นำตัว นายภูมิพัฒน์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “เราไม่ขอรับรางวัลแต่อย่างใด เราทำตามหน้าที่ที่ประชาชนต้องการที่พึ่งพิง แม้ท่าน(ผู้เสียหาย)จะเป็นผู้มีชื่อเสียง แต่อีกมุมหนึ่งท่านก็คือประชาชนคนหนึ่ง เรารับรู้ความทุกข์ใจแล้วว่ามันมากเพียงใด
และจากพฤติกรรมของผู้ต้องหามีลักษณะ คุกคาม ให้ร้ายกับฝ่ายผู้เสียหาย ซ้ำยังแสดงออกถึงความไม่เกรงกลัวและท้าทายกฎหมาย ถือเป็นภัยสังคม ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”