ร้านดังแจงดราม่า ปมลูกค้าโวยโดนแมวกัด ฟ้องคาเฟ่แมวเรียก 2.5 หมื่น
ฟังอีกมุม ร้านแจงดราม่า พร้อมเปิดภาพวงจรปิดชัดๆ ปลูกค้าโวยเล่านกับแมวแล้วโดนกัด ฟ้องคาเฟ่แมวเรียกเงิน 2.5 หมื่น
จากกรณี ลูกค้าท่านหนึ่งฟ้องร้อง Mohu Mohu Café คาเฟ่แมว เรียกค่าเสียหาย 25,000 บาท โดยอ้างว่า ถูกแมวในร้านกัดจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งลูกค้ารายนี้เล่นกับแมวด้วยกระโปรงแล้วเกิดความผิดพลาดถูกแมวกัด ทั้งที่ร้านได้แจ้งกฎให้ลูกค้ารับทราบก่อนใช้บริการแล้วว่าอาจถูกแมวกัดหรือข่วนได้ โดยทางร้านได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงอีกมุมผ่านทางเพจ "Mohu Mohu Café คาเฟ่แมว" ระบุว่า
ลำดับเหตุการณ์คดีฟ้องร้องคาเฟ่แมว Mohu Mohu Café
1. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์ได้มาที่ Mohu Mohu Cafe เพื่อใช้บริการ ทางร้านจึงแจ้งโจทก์เกี่ยวกับข้อตกลงการใช้บริการ และแจ้งว่าแมวอาจกัดหรือข่วนได้ เมื่อแจ้งเงื่อนไขการใช้บริการเรียบร้อยแล้ว จึงให้โจทก์เข้าใช้บริการได้
2. ในวันเดียวกัน ระหว่างที่โจทก์ใช้บริการคาเฟ่อยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนที่ทางคาเฟ่ใช้เป็นห้องแมว โจทก์ได้ทำการเล่นกับแมวชื่อ "เรนะ" เรนะได้ขึ้นไปบนกระโปรงของโจทก์และมีการกัดกระโปรงของโจทก์เล่น หลังจากนั้นโจทก์ได้ใช้กระโปรงในการเล่นกับเรนะ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ถูกเรนะกัดที่กระโปรง
3. หลังจากที่โจทก์ถูกแมวชื่อเรนะกัด โจทก์ได้เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อแจ้งกับพนักงานว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกแมวกัด พนักงานจึงได้ทำการปฐมพยาบาลทันที ด้วยการทายาล้างแผลและติดพลาสเตอร์ให้กับโจทก์ และทางพนักงานได้แจ้งกับโจทก์ว่าแมวทุกตัวของทางร้านมีการฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ อย่างครบถ้วนแก่โจทก์
4. หลังจากที่พนักงานร้านได้ทำการปฐมพยาบาลให้โจทก์เสร็จแล้ว โจทก์ได้ทำการยืมผ้ากันเปื้อนจากทางร้านเพื่อไปเล่นกับแมวที่ชั้น 3 อีกเป็นเวลาประมาณ 50 นาที
5. จากนั้นเมื่อโจทก์ใช้บริการเสร็จ โจทก์เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อทำการจ่ายเงินกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นจำเลย และจำเลยได้มีการถามโจทก์ว่าถูกกัดมาหรือเปล่า โจทก์ได้แจ้งว่าแมวอาจจะคิดว่ากระโปรงคือทิชชู่จึงกัด หลังจากนั้นโจทก์ได้ทำการชำระค่าใช้บริการและออกจากร้านไป
6. ภายในวันเดียวกันเวลา 17.00 น. โจทก์ได้โทรติดต่อเข้ามาที่ร้านและถามว่า แมวได้มีการฉีดวัคซีนหรือไม่และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ตอบว่ามีการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองใน
7. หลังจากนั้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.16 น. โจทก์ได้มีการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น Instagram มาที่กล่องข้อความของ Instagram ของทางร้าน และบอกให้ทางร้านตอบกลับภายในเวลา 1 วัน แต่จำเลยไม่ได้ตอบกลับในเวลาที่โจทก์ต้องการ เนื่องจากจำเลยไม่ได้ตั้งค่าการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นดังกล่าวเอาไว้ จึงถูกโจทก์ตำหนิว่าละเลยและไม่มีความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น
8. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการโทรติดต่อมาที่ร้านและแจ้งว่าโจทก์ต้องการดำเนินคดีกับจำเลย โดยโจทก์ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเจ้าของร้านไม่ตอบกลับข้อความในแอปพลิเคชั่น Instagram และข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Mohu Mohu Café รวมถึงมีการโทรติดต่อมาที่ร้านแล้วแต่กลับถูกจำเลยละเลย แต่ในความเป็นจริงโจทก์ส่งข้อความมาแค่ในแอปพลิเคชั่น Instagram เพียงที่เดียวเท่านั้น และยังโทรติดต่อเข้ามาหาจำเลยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 เพียงครั้งเดียว
9. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งจำเลยว่าให้ไปที่สถานีตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นั้นทันที แต่เนื่องด้วยจำเลยไม่สะดวกที่จะไปพบตำรวจในวันและเวลาดังกล่าวเนื่องจากเป็นวันที่ร้านมีลูกค้าเยอะที่สุด จำเลยจึงไม่ได้ออกจากร้านไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จำเลยได้แจ้งเจ้าหน้าตำรวจที่สถานีตำรวจบางรักว่า ให้มาที่ร้านที่เกิดเหตุได้หรือไม่ เพราะอยู่ห่างเพียง 240 เมตรจากสถานี แต่ถูกปฏิเสธ จำเลยจึงขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ แต่ก็ถูกโจทก์ปฏิเสธเช่นกัน
10. หลังจากได้วางสายโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 แล้ว จำเลยได้เข้าแอปพลิเคชั่น Instagram เพื่อทำการอ่านข้อความของโจทก์และตอบข้อความของโจทก์ทันที และโจทก์กล่าวว่า ‘ไม่ต้องขอโทษแล้ว มันสายไปแล้ว’
11. วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 จำเลยได้รับหมายศาลจากกรณีที่เกิดขึ้น จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อศาล
ทั้งนี้ ทางเพจร้านยังได้โพสต์คลิปวงจรปิด ช่วงเวลาที่ลูกค้าคนดังกล่าวเข้ามาใช้บริการเล่นกับแมว หลังจากนั้นทางร้านได้อัพเดตเรื่องราวเพิ่มเติมอีกว่า
1. สถานะโจทก์และจำเลย
โจทก์เป็นผู้รับบริการและผู้บริโภค
จำเลยเป็นบริษัทจำกัดที่ดำเนินกิจการคาเฟ่, ร้านกาแฟ และเบเกอรี่
2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์เข้าใช้บริการที่ Mohu Mohu Cafe และถูกแมวกัดและข่วน
โจทก์มีโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในทันที
จำเลยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงหรือขอโทษโจทก์
โจทก์ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาแผลและฉีดวัคซีน
3. การเจรจากับจำเลย
โจทก์ได้ติดต่อจำเลยผ่านทาง Instagram, Facebook และโทรศัพท์ แต่ไม่ได้รับคำตอบหรือคำขอโทษใดๆ จากจำเลย
โจทก์แจ้งความที่สถานีตำรวจแต่จำเลยเพิกเฉยและไม่ยอมเจรจา
4. ความเสียหาย
โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าเสียเวลา รวมเป็นเงิน 25,000 บาท
5. การฟ้องร้อง
โจทก์ต้องการให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเสียหายรวม 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี
โจทก์ต้องการให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการละเมิดสิทธิและเพิกเฉยต่อการเจรจา
หลังเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ไป ได้มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจร้านเป็นจำนวนมาก ขณะที่บางส่วนก็เกิดความสงสัยว่าคนที่มาคาเฟ่แมวน่าจะรู้ธรรมชาติของแมว และต้องเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะเกิดโดนแมวกัดหรือข่วนได้ ซึ่งหากรับไม่ได้กับความเสี่ยงนี้ก็ไม่ควรใช้บริการแต่แรก
ซึ่งหากลูกค้าเกรงว่าจะได้รับการบาดเจ็บจากการเล่นกับแมว ก็ไม่ควรเอากระโปรงไปเล่นกับเค้าเนื่องจากสิ่งที่เคลื่อนไหวไปมาไวๆจะกระตุ้นสัญชาตญาณการไล่ล่าของแมว ขนาดเวลาแมวเล่นไม้ตกแมวยังกางเล็บตะปบตุ๊กตาเลย หากไม่ได้มีความเข้าใจในลักษณะนิสัยหรือการปฏิบัติต่อเค้า ควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าคาเฟ่แมวดีกว่า
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Mohu Mohu Café คาเฟ่แมว