รวบ "ตั้ม" คนขับรถตุ๊กตุ๊กอันธพาล ควงปืนโชว์กร่าง ข่มขู่คนใช้รถบนถนน
สืบนครบาล รวบตัว "ตั้ม" คนขับรถตุ๊กตุ๊กอันธพาล ควงปืนโชว์กร่าง ขู่คนใช้รถบนถนน อ้างทำไปเพราะเมาสุราขาดสติ.
คนขับรถตุ๊กตุ๊กก่อเหตุโชว์กร่าง ควงปืน ขู่คนใช้รถบนท้องถนน ภัยสังคม สุดท้าย ไม่รอดถูกรวบคารถตุ๊กๆคันที่ใช้ก่อเหตุ แถมตรวจฉี่พบม่วง อ้างทำไป เพราะ เมาสุราขาดสติ
โดยทางด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แม่ทัพเมืองหลวง ทราบเรื่องไม่ปล่อยให้พฤติกรรมในลักษณะแบบนี้ลอยนวลในสังคมเมืองกรุง กระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และยังกระทบต่อภาพลักษณ์สำคัญของเมืองไทยและนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่ปรากฎภาพคนขับรถตุ๊กๆ ซึ่งเป็น soft power และหน้าตาของเมืองไทย จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ “ผู้การจ๋อ” ส่งทีม “สารวัตรแจ๋ะ พร้อมทีมงานสืบนครบาล” ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว และติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน ก่อนที่สร้างความเดือดร้อนและความหวาดกลัวเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. (สืบนครบาล) และ สืบสวน สน.มักกะสัน ร่วมกันจับกุมตัว นายประพร หรือตั้ม อายุ 31 ปี ข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญฯ” พร้อมทั้งได้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” โดยจับได้บริเวณริมถนนใต้ทางด่วน ถนนกำแพงเพชร 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ขับขี่รถยนต์ขณะมึนเมาสุรา” ในพื้นที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด จว.ร้อยเอ็ด เมื่อประมาณปี พ.ศ.2561
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ช่วงสาย ได้มีผู้เสียหาย อยู่ในอาการหวาดผวา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ด้วยอาการตื่นตระหนก ตกใจ ด้วยเหตุขณะที่ผู้เสียหายกำลังขับรถไปทำงานเป็นปกติใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร โดยมีรถตุ๊กๆ คู่กรณีขับอยู่ข้างหน้า จู่ๆ เคราะห์ร้ายเจอรถตุ๊กๆ มหาภัย ชูปืนขึ้นมาขู่ให้ผู้เสียหาย ขับรถปาดหน้ารถผู้เสียหาย ยกกระบอกปืนชี้มายังรถของหญิงสาว ผู้เสียหายกับเพื่อนสาวที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน เมื่อตั้งสติได้ จึงได้รีบขับรถออกจากจุดเกิดเหตุดังกล่าว และรวบรวมความกล้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อติดตามและดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถตุ๊กๆภัยสังคมรายนี้
ทีมสืบนครบาลได้ข้อมูลสำคัญว่า คนร้ายเป็นมักจะขับรถตุ๊กๆ ย่านสุขุมวิท ทองหล่อ สาธร ชิดลม เพลินจิต ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญใจกลางเมือง ในช่วงเย็น อีกทั้งยังพบว่า คนร้ายรายนี้ มักจะออกตระเวนขับรถรับ-ส่ง ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในยามราตรี ตลอดเส้นถนนสุขุมวิท อาทิ ซอยนานา สุขุมวิท ทองหล่อ ที่เป็น landmark สถานที่สำคัญที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้รายงานให้ ผู้การจ๋อทราบและได้รีบสั่งการให้ทีมงานสืบสวนจัดชุดล่าตัว คนร้ายรายนี้มาให้ได้
ยิ่งนานวันอาจจะสร้างความเดือดร้อนและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวทีมงานสืบสวน จึงได้จัดชุดไล่ล่า ทั้งกลางวันและกลางคืน สืบสวน ติดตาม หาข่าว จนทราบว่า คนร้ายขับรถตุ๊กๆ ตระเวนรับผู้โดยสารย่านสุขุมวิท โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ตลอดเส้นทาง ถนนสุขุมวิท (ชิดลม-อโศก-นานา-เพลินจิต-ทองหล่อ-เอกมัย) และมักพักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง จึงไม่ง่ายต่อการติดตามและสะกดรอยตามอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 7 วัน
จากการตรวจสอบพบว่า นายประพรฯ อยู่ในลักษณะบุคคลคล้ายมึนเมา จากการสอบถามนายประพรฯ ให้การรับว่า ตนคือบุคคลในภาพที่ได้ก่อเหตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 ที่ผ่านมาจริง แต่อาวุธปืนที่ใช้นั้นมิใช่อาวุธปืนจริงแต่เป็นอาวุธปืนปลอมที่ตนเองประดิษฐ์และทำจากไม้และพลาสติก ซึ่งทำให้บุคคลทั่วไปเห็นและเข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนจริง โดยได้ทำและมีไว้เพื่อข่มขู่และป้องกันตัวจากวัยรุ่นในช่วงเวลาที่ตนขับขี่รถในช่วงเวลากลางคืน โดยสาเหตุที่ทำไปนั้นเนื่องจาก ขณะเกิดเหตุตนอยู่ในสภาวะมึนเมาแอลกอฮอล์ และมีปัญหา ความเครียดส่วนตัว อันเนื่องมากจาก ตนได้เช่ารถตุ๊กๆ มาจากสหกรณ์แห่งหนึ่ง แต่ช่วงหลังๆ มารายได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าเช่า จนกระทั่งมาช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนได้ขับขี่รถตุ๊กๆ มาเจอรถผู้เสียหาย จึงเกิดความเครียดและไม่พอใจ จึงใช้อาวุธปืน(ปลอม)ก่อเหตุในครั้งนี้ หลังก่อเหตุ ตนได้โยนอาวุธปืนปลอมดังกล่าวทิ้งไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหามายัง สน.มักกะสัน เพื่อมาสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคดี และยังพบว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) มาจำนวน 2 เม็ด จึงได้ทำการตรวจพิสูจน์และยืนยันว่า พบสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ในร่างกาย จริง โดยรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายประพรฯนำส่ง พงส.สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญฯ” พร้อมทั้งได้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” อีกกระทงหนึ่ง นำส่ง พงส.สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น นายตั้มฯ ได้กล่าวขอโทษไปยังผู้เสียหาย ว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุแบบนั้น แต่ที่ทำลงไปเป็นเพราะว่าตนเครียด หาเงินไม่ค่อยได้ หากมีโอกาสจะขอกลับตัวกลับใจ บำบัดเสร็จแล้วจะออกมาหาอาชีพสุจริตทำ เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัวต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้กล่าวว่า “คดีนี้ถือว่าผู้ก่อเหตุเป็นภัยสังคมอย่างแรง เพราะตัวเอง ขับรถโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวเป็นประจำ ยิ่งเป็นรถตุ๊ก ๆ ก็จัดว่าเป็น ซอฟต์ พาวเวอร์ ของเมืองไทย การที่ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมขับรถหวาดเสียวแบบนี้ ประกอบกับการใช้อาวุธปืนมาข่มขู่ ผู้สัญจรบนท้องถนน ซ้ำยังเสพยาเสพติดอีก แบบนี้เป็นการทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างมาก จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนทั่วไปที่ขับรถสัญจรบนท้องถนนว่า หากพบพฤติการณ์ของผู้ขับขี่รถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊ก ๆ หรือรถประเภทอื่น ก่อเหตุในลักษณะนี้อีก สามารถแจ้งเบาะแสได้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือ สืบนครบาลได้ทันที“