รู้จัก "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ดีกรีอดีตผู้ประกาศข่าว สู่เส้นทางช่วยเหลือสังคม

เรียกได้ว่าตกเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ สำหรับ "อ้อ ชลิดา พะละมาตย์" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ผู้เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "เป็นหนึ่ง" กลุ่มจิตอาสาที่ช่วยเหลือสังคม เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย ในหลากหลายประเด็น นอกจากการช่วยเหลือสังคมแล้ว ความสวยแล้ว ในด้านความแซ่บของฝีปากเธอก็ไม่เบา จึงทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นอีก

โดยก่อนที่ อ้อ ชลิดา ก่อนจะมาทำเพจ "เป็นหนึ่ง" เธอเคยเป็นตัวแทนมูลนิธิ วิน วิน เข้าไปให้ความช่วยเหลือญาติของผู้เสียชีวิตหลายราย ในการติดตามหาความจริง ในคดี แอม ไซยาไนด์  โดยกลุ่มที่ คุณอ้อ เข้าไปช่วยเหลือ ก็คือกลุ่มของเหยื่อวงแชร์ ทั้งครอบครัวของ ตำรวจหญิง แม่ค้าแผงผัก และผู้ป่วยมะเร็งอีกท่าน ที่ทั้งสามคนเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน โดยมีจุดเชื่อมโยงเดียวกันคือ เป็นลูกแชร์ของ แอม และยังตายในลักษณะเดียวกัน

หลายคนให้ความสนใจ อ้อ ชลิดา จากความฉะฉานในการพูด รวมทั้งบุคลิกเด็ดเดี่ยวที่แสดงออกมาในรายการต่างๆ ที่เธอไปร่วมพูดคุย รวมทั้งประโยคเด็ด ที่ อ้อ พูดถึง ทนายธันย์นิชา ทนายความของแอม
 ที่บอกว่า

"วันนั้นที่อ้อเจอทนายของเขาที่กองปราบ เขาพูดว่า เขาว่าความให้คุณแอมชนะมาหลายคดีแล้ว คดีนี้ยังไงก็เอาอยู่ แต่ไม่แน่ใจใช่คนในรูปวันนั้นไหมคะ คนเดียวกันไหมคะ มันไม่ค่อยเหมือน อ๋อคนเดียวกันนะคะ"

 

 และหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า อ้อ ชลิดา โลดแล่นในวงการสื่อมวลชนมานาน โดยเคยเป็นทั้ง ผู้ประกาศข่าว Asia Update News เคยทำงานกับสื่อแถวหน้า อาทิ บางกอกทูเดย์, เรื่องจริงผ่านเลนส์ และยังมีตำแหน่งเป็น  ที่ปรึกษาประธาน คณะอนุกรรมาธิการติดตามระบบการเงิน การคลังและระบบเศรษฐกิจ ที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งยังเคยเป็น อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง และ อดีตอนุกรรมาธิการ สื่อสารดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้นั้น อ้อ ชลิดา เปิดตัวในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ร่วมกับ พรรคก้าวไกล แต่ไม่นานเจ้าตัวก็ตัดสินใจ ประกาศขอยุติบทาทด้านการเมือง ขอโฟกัสที่การทำงานด้านมูลนิธิแทน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ก็ทำให้เจ้าตัว สามารถทุ่มเทในการช่วยเหลือเคสต่างๆ ผ่านการทำงานภาคสังคมได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าแอบอ้างขายวุฒิการศึกษาปริญญาตรี และเกี่ยวข้องกับการเสนอขายตำแหน่งในรัฐสภา โดยเจ้าตัวได้ออกมาขอโทษต่อประชาชน สื่อสังคม มูลนิธิเป็นหนึ่ง และบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากข่าวฉาวดังกล่าว พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และขอโอกาสกลับมาช่วยเหลือสังคมอีกครั้ง