"บิ๊กต่าย" ตั้งค่าหัว สั่งล่ามือสังหารตำรวจเชียงใหม่ 1 แสนบาท

บิ๊กต่าย สั่งล่ามือสังหารตำรวจเชียงใหม่ดับ เชื่อยังซ่อนตัวในหมู่บ้านอรุโณทัย ระดมกำลังไล่ล่า ตั้งค่าหัว 100,000 บาท
จากกรณีที่สถานีตำรวจภูธรนาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นำกำลังไปปิดล้อมบ้านผู้ค้ายาเสพติด ที่บ้านเจียจันทร์ หมู่ที่ 13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันและวิ่งหนี เมื่อพบกับตำรวจจึงใช้ปืนลูกซองยิงใส่ ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงดาว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2567 เวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มอบหมายให้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า บ้านที่เกิดเหตุเราก็ได้ติดตามความคืบหน้า และได้ใช้เครื่องมือพิเศษ ทราบว่าจุดสุดท้ายที่ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหานั้น อยู่ที่หมู่บ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว
ขณะนี้กำลังกว่า 100 นาย อยู่ที่หมู่บ้าน ซึ่งเป็นแนวชายแดนเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน กำลังทำการค้นหาตัวผู้ต้องหาอยู่ ซึ่งจากการค้นหาโดยการใช้เครื่องมือพิเศษ
เราประเมินว่าตัวผู้ต้องหายังอยู่แถวๆ โซนหมู่บ้าน อรุโณทัย ซึ่งเป็นพื้นที่ไร่ข้าวโพด และเป็นพื้นที่ป่า กำลังที่เราวางไว้ทั้งกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตำรวจกำลังพยายามอย่างเต็มที่ โดยการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งตำรวจสืบสวน สภ.นาหวาย สืบทราบมาแล้วว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับในคดียาเสพติด
จากข้อมูลทราบว่า คนร้ายหลบหนีเข้ามาอยู่บ้านพักกับภรรยา ตำรวจจึงได้วางแผนและวางกำลัง จากที่เกิดเหตุเราเห็นมีการวางกำลังตำรวจไว้ด้านข้างและด้านหลัง แต่ผู้ต้องหานั้นมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ก็กระโดดออกที่กำแพงหลังบ้านและยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
เราพบว่าที่ฝ่ามือตำรวจของผู้เสียชีวิตนั้น มีรอยกระสุนเข้า ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นก็มีการยิงโต้ตอบกัน และผู้ต้องหาก็หลบหนีเข้าในแนวชายป่าไป ซึ่งข้างหลังนั้นเป็นเขาส่วนประเด็นเรื่องความช่วยเหลือผู้เสียชีวิต เรามีเรื่องของความดีความชอบเรื่องทายาท ขณะนี้เราก็เดินคู่ขนานไปกับเรื่องการติดตามตัวคนร้าย การดูแล สวัสดิการ และเงินที่ได้รับอย่างเต็มที่ ส่วนผู้บาดเจ็บก็เช่นกัน
ทั้งนี้ การติดตามตัวผู้ต้องหา ยังถือว่าเป็นบุคคลอันตรายเพราะยังมีอาวุธปืนติดตัวอยู่ ที่จะสามารถต่อสู้และทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ โดยตำรวจได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน และบริเวณใกล้เคียงรวมถึงการให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งทหารไทยก็ประสานงานกันอยู่ ล่าสุดตำรวจได้ตั้งค่าหัวตัวผู้ต้องหาที่ทำร้าย และฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยได้ตั้งค่าหัวไว้ 100,000 บาท ถ้าประชาชนหรือว่ามีใครมีข้อมูลเบาะแสผู้ต้องหา ทางตำรวจก็จะปกปิดข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งการกระทำนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม จะต้องตามจับกุมตัวได้เร็วที่สุด

แฟนเพลงเฮลั่น "แม่ผ่องศรี" ให้โชคเต็มๆ รับทรัพย์ถ้วนหน้า

"ติ๊ก ชิโร่" เผยอาการล่าสุด หลังเข้า รพ.ตรวจหัวใจ แฟนๆ ส่งกำลังใจ

รู้แล้ว "เพชร แฟนมายด์" ทำอาชีพอะไร เปิดหมดเปลือกจุดเริ่มต้นการถูกหักหลัง

สลากดิจิทัลงวดนี้ รางวัลที่ 1 แตก 162 ล้าน เศรษฐีใหม่ 24 คน
