แม่หัวใจสลาย เผยภาพสุดท้าย พร้อมสั่งลาลูกน้อย 2 เดือน เหยื่อเพื่อนบ้านโหด
พ่อแม่หัวใจสลาย โพสต์ภาพภาพสุดท้าย พร้อมสั่งลาหนูน้อย 2 เดือน เหยื่อเพื่อนบ้านโหด ต่างโทษตัวเอง ขอโทษที่ปกป้องลูกไม่ได้
เรียกได้ว่าสลดใจอย่างมาก กับเหตุการณ์เด็กหญิงวัยเพียง 2 เดือน เสียชีวิตด้วยน้ำมือเพื่อนบ้านโหด ที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามบุกขืนใจแม่เด็ก2เดือน แต่ก่อเหตุไม่สำเร็จจึงเดินเข้าบ้านไปทำร้ายเด็ก 2 เดือน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา นายลี อายุ 40 ปี บุกทำร้ายร่างกายเด็กหญิงวัย 2 เดือน โดยตอนแรกนายลีได้เดินข้ามมาหาแม่เด็กคือ น.ส.ชนิกานต์ อายุ 20 ปี ที่ยืนตากผ้าอยู่หน้าบ้าน บังคับให้ร่วมหลับนอนด้วยพร้อมขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะทำร้ายลูกสาว แต่แม่เด็กวิ่งหนีทำให้คนร้ายก่อเหตุไม่สำเร็จ จากนั้นคนร้ายจึงเดินเข้าไปในบ้านแล้วจับขาเด็กฟาดพื้นจนหัวแตก เสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้วิ่งหนีกลับไปที่บ้านของตัวเองที่อยู่ตรงข้ามบ้านเหยื่อ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกรวบตัวผู้ก่อเหตุได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของเพื่อนบ้านและประชาชนที่ทราบข่าว แม่ของน้องได้เผยว่า "อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด เพราะทำรุนแรงกับลูกของหนู ลูกของหนูเพิ่งจะยิ้มได้เอง กำลังน่ารักน่าชัง"
ล่าสุดพ่อแม่โพสต์ใจสลายถึงลูกน้อย เผยภาพสุดท้ายที่ได้ถ่ายด้วยกันพร้อมขอโทษที่ปกป้องลูกไม่ได้ ชาติหน้าขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก โดยระบุว่า
"รูปสุดท้ายที่เราถ่ายด้วยกันนางฟ้าตัวน้อยของแม่ จากครั้งนี้คงตลอดกาลสินะเด็กดื้อของแม่ เป็นเพราะแม่แท้ๆหนูเลยต้องมาเจอแบบนี้ #ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์นะสาวน้อยไอลินของแม่ แม่รักเธอที่สุดกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ"
โดยต่อมาได้โพสต์อีกว่า "อยากย้อนเวลากลับได้อีกครั้งจัง แม่จะกลับไปแก้ไขทุกอย่างให้ตอนนี้มีหนูกลับมายิ้มเหมือนเดิมอีกครั้งนางฟ้าของแม่"
นอกจากนี้ยังมีโพสต์ที่โทษตัวเองอีกว่า "แม่กับพ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน ทำไมวันนี้หนูนอนนิ่งแข็งตัวเย็นแบบนี้ไม่ตื่นมายิ้มไห้แม่เหมือนทุกวันแก้มนุ่มๆที่แม่เคยจับเคยหอมทำไมตอนนี้แข็งไปหมด หนูคงหนาวมากเหลือเกินลูกจ๋า"
ทั้งนี้ ทางด้านพ่อของเด็กได้โพสต์ว่า "คิดถึงเหลือเกิน #นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ ขอให้นางฟ้าของพ่อไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ #รักที่สุดนางฟ้าตัวน้อย สงสารลูกตัวเองมากที่ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้
ผมอยากจะบอกให้ทุกๆคนบนโลกใบนี้ว่าถ้าคุณรักลูกเมียของคุณจริงๆก็อยากปล่อยให้เค้าทั้งสองต้องอยู่ตามลำพังเพราะผมไม่อยากให้ต้องมาเจอเหตุการณ์เหมือนผมอีกเพราะว่าการสูญเสียเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง การสูญครั้งนี้ของผมถือว่าเป็นอุทาหรณ์ให้ใครอีกหลายๆคนนะครับ"