กสทช. ชี้แจงแล้ว ปมการลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2023
กสทช. ชี้แจงแล้ว ปมการลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2023 หลังไทยต้องจ่ายแพงกว่าชาติอื่น ถ้าไม่ซื้อผิดหรือไม่!?
เริ่มนับถอยหลังแล้วสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่ กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ โดยจะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 5 - 17 พ.ค. 2566 อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนกำลังให้ความสนใจตอนนี้ คือเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2023 ที่ไทยต้องจ่ายแพงกว่าชาติอื่น ซึ่งทางกัมพูชาตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจาและมูลค่าทางการตลาด เราทำตามมาตรฐานทางซีเกมส์เสมอ ประเทศที่มีมูลค่าทางการตลาดที่ใหญ่กว่าก็จะต้องจ่ายราคาสูงกว่า มันสมเหตุสมผล"
และจากประเด็นดังกล่าว แม้ว่าจะไม่ได้มีความเห็นของบอร์ด กสทช. อย่างเป็นทางการ แต่ได้มีคำตอบคณะทำงานระดับเจ้าหน้าที่ของ กสทช. แจ้งกับ กกท. ก่อนหน้านี้ว่า การถ่ายทอดการแข่งขันซีเกมส์ 2023 อยู่ในกฎ Must Have คนไทยควรจะได้รับชมการแข่งขัน
ล่าสุดมีรายงานว่า นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) ระบุถึง การถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดว่า
"การแข่งขันซีเกมส์ อยู่ในกฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) 7 ชนิดกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี หากมีการซื้อสิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมา ก็ต้องมีการถ่ายทอดสดให้คนไทยชมผ่านทุกแพลตฟอร์มได้ฟรี"
แต่สำหรับในเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ที่มีขายราคาอยู่ที่ 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27.6 ล้านบาท นั้น ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) เคยแจ้งกับสำนักงาน กสทช. ว่า หากเป็นกีฬาที่มีคนไทยแข่งขัน ก็สามารถนำเงินกองทุนกีฬาที่มีอยู่มาใช้ซื้อลิขสิทธิ์ได้ แต่ในครั้งที่แล้ว กรณีบอลโลกไม่มีคนไทยเล่น กทท. จึงมาขอสนับสนุน
จึงเชื่อว่า ทาง กทท. จะมีทางออก หรือหาผู้สนับสนุน มาซื้อลิขสิทธิ์ หรือใช้งบกองทุนกีฬาที่มีอยู่ซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อนำมาถ่ายทอดสดให้คนไทยดูได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่หากไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์มาได้ ไม่มีการถ่ายทอดสด ก็ถือว่า ไม่ได้ผิดกฎมัสต์ แฮฟ เพราะไม่ได้ซื้อ แต่หากเมื่อมีการซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว จะต้องถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูฟรี ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ตามกฎมัสต์ แฮฟ ที่ระบุไว้