เปิดใจ เทนนิส ปิดฉากชีวิตนักกีฬาสวยงาม พร้อมเผยถึงความสัมพันธ์ จูเนียร์
เปิดใจ "เทนนิส พาณิภัค" ปิดฉากชีวิตนักกีฬาเทควันโดสวยงาม พร้อมเผยถึงความสัมพันธ์กับ "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ส.ค. 67 "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ซึ่งทาง เทนนิส ยังได้เปิดใจถึงเส้นทางชีวิตนักกีฬาของตัวเอง ระบุว่า...
รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากๆที่มีคนมารับหนูเยอะมากๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีคนมา มันอิ่มเอมจนนอนไม่หลับค่ะ ภูมิใจมากๆและดีใจมากๆที่ทำมันสำเร็จค่ะ มันเป็นประวัติศาสตร์ที่พวกเราร่วมกันเขียน คือมีชื่อประเทศไทยไปปักอยู่ที่ปารีสในเวทีโอลิมปิก หนูรู้สึกภูมิใจมากๆ สำหรับความทุ่มเท ความเหนื่อย ที่หนูเต็มที่มากๆ และทำให้ได้เหรียญทองกลับมา ตอบแทนหนู และคนไทยมากๆ หนูหายเหนื่อยเลยค่ะ
ส่วนโมเมนต์ที่หลายคนประทับใจ ช็อตก้มลงกราบโค้ชเช หลังเป็นผู้ชนะในรอบสุดท้าย มันเป็นโมเมนต์ที่ เราทำได้ หนูก็อยากจะขอบคุณโค้ชมากๆค่ะ ที่ทุ่มเทมากับหนู และเราก็เชื่อใจกันมากๆ ทั้งตอนซ้อมและตอนแข่งขัน อยากขอบคุณคนไทยและก็โค้ชมากๆค่ะ
ตอนนี้หลังจบการแข่งขัน ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นค่ะ สำหรับอาการบาดเจ็บของหนูมันเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เป็นมาหลายปีแล้ว ถ้าจะผ่าตัดก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน ก็บอกตัวเองเสมอว่ายังไม่อยากผ่าตัด อยากแข่งโอลิมปิกให้เสร็จก่อน อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้เสร็จก่อน หลังจากนี้ก็คิดว่าจะมีเวลาดูแลร่างกายเยอะขึ้น ก็คงไป MRI ไปเอ็กซเรย์ ไปดูร่างกายอย่างละเอียด เพราะก่อนหน้านี้บอกหมอว่า หนูไม่อยากรู้ว่าหนูเป็นอะไร เพราะถ้ารู้แล้วจะกลัว เพราะเคยไป MRI แล้วเอ็นไขว้หลังขาดค่ะ แต่ว่าข้างซ้ายที่มันดัง ยังไม่ได้ไปดูว่าเป็นอะไร หลังจากนี้ก็จะไปตรวจร่างกาย คิดว่าจะพักเรื่องการฝึกซ้อมและก็เข้าคู่ไป หันไปวิ่งเบาๆ หรือเวทเทรนนิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้าเข่าไม่ได้ซ้อมเลยมันจะเจ็บขึ้นได้
สำหรับหนูตัดสินใจแน่นอนแล้วค่ะ ว่าเวทีโอลิมปิกเป็นเวทีสุดท้ายสำหรับชีวิตนักกีฬาค่ะ หนูคิดว่าหนังสือเล่มนี้มันจบอย่างสวยงามที่สุดแล้ว และหนูก็เต็มที่ในการเขียนหน้านี้เป็นอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ เล่มที่ชื่อว่า "เทควันโด" เต็มที่ที่สุดแล้ว หนูใส่สุดหมดตั้งแต่ก่อนไป จนตอนนี้มันสมบูรณ์สำเร็จทุกอย่างแล้ว หนูมีความสุข ตอนจบมันโคตรจะสวยงาม มันไม่มีอะไรสวยไปมากกว่านี้ หนูก็อยากจะไปเขียนหนังสือเล่มต่อไป อย่างเทควันโดสาขาที่สอง นั่นคือสถาบันฝึกซ้อมและสอนเทควันโด จะเปิดแล้วฝากทุกคนด้วยนะคะ
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับ "จูเนียร์" รามณรงค์ เสวกวิหารี ได้ยอมรับว่า สำหรับหนูกับเนียร์ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมายาวนาน ปีนี้เป็นปีที่ 9 สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ในตอนแรก เราไม่อยากให้ทุกคนโฟกัส เพราะเราสองคนก็มีความฝัน หน้าที่เป็นนักกีฬาทีมชาติกันทั้งคู่ มีความฝันอยากจะไปโอลิมปิกด้วยกัน อยากคว้าเหรียญทองโอลิมปิกด้วยกัน อยากทุ่มเทเต็มที่ไปกับมัน เลยไม่อยากบอกใครค่ะ
ตอนนี้มันเหมือนปลดล็อก สำเร็จไปแล้ว ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ หนูก็อยากบอกทุกคนว่า ทุกเส้นทางที่ผ่านมา ก็มี จูเนียร์ คอยเคียงข้างค่ะ เขาก็โดนหนูเตะทุกวันกว่าจะมีวันนี้ก็เหนื่อยด้วยกันมา ร้องไห้ด้วยกันมา (เรียกแฟนได้แล้วใช่ไหม) เดี๋ยวพ่อว่าค่ะ
ตอนนี้ก็พร้อมรับงานทุกอย่างทั้งวงการกีฬา และวงการบันเทิง หากมีโอกาสได้ไปทำอย่างอื่นก็อยากลอง โดยเฉพาะการเล่นซิตคอม อยากขอฝากทุกคนที่อยากทำตามความฝันของตัวเอง อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน อยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกความฝันของทุกคน