"บัวขาว บัญชาเมฆ" เผยเหตุผลยอมขึ้นชกมวยสากลครั้งแรก ได้ยินตลอดควรเลิกชก
ได้ใจ "บัวขาว บัญชาเมฆ" เผยเหตุผลยอมขึ้นชกมวยสากลครั้งแรก ล่าสุดออกผลเสมอ ได้ยินตลอด อายุ 42 ควรเลิกชกได้แล้ว
บัวขาว บัญชาเมฆ ที่ตอนนี้อายุอานามปาไป 42 แล้ว แต่ก็ยังฟิตปั๋งจนไฟต์ล่าสุดนักมวยชื่อดังของชาวไทย ที่เพิ่งขึ้นชกมวยสากลเป็นครั้งแรกในศึก Japan Martial Arts EXPO ที่เมื่อโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
บัวขาว ขึ้นชกในน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ขึ้นชกคู่เอกกับ โคจิ ทานากะ นักชกชาวญี่ปุ่น อดีตแชมป์โลก ISKA วัย 35 ปี ในกติกา 3 ยก แต่หากไม่มีการน็อก ก็จะให้เสมอกัน ปรากฎว่า บัวขาว ต่อยครบ 3 ยก น็อกไม่สำเร็จ จบลงด้วยผลเสมอ
ล่าสุด เพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้เผยสาเหตุที่เปลี่ยนมาชกมวยสากลครั้งแรกว่า "บัวขาวทลาย comfort zone ด้วยการชกมวยสากลครับ!! และวิทยาศาสตร์อย่างที่พี่ยิ้มว่าครับ ด้วยวัย 42 ที่ต่อยมาแล้ว 8 กติกา คือ มวยไทย , มวยสากล , K-1 , Kickboxing , Shootboxing , Bare Knuckle , Bare Knuckle - Muaythai , MAS FIGHT"
อีกทั้ง เพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้ขยายความจากการแชร์โพสต์ของ ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการส่วนตัวว่า "หยุดเถอะเพื่อเป็นตำนาน = ตั้งโปรแกรมสมองให้ยอมพ่ายแพ้
ทีมงานขอพูดคำเดิมครับ ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา หลังจากได้แชมป์ K-1 สองสมัย รุ่นพี่ที่เป็นฮีโร่ ตำนานต่างๆ ของไทยรวมถึงมวลมหาประชาชนคอมวยลงความเห็นตรงกันให้หยุดต่อยหยุดชกมวยซะเพื่อให้เป็นตำนาน ไม่ไช่คิดว่าตัวเองดีเก่ง แน่หยิ่งยะโสอะไร เคารพทุกความเห็นที่แนะนำ
แต่ถ้า 18 ปีที่แล้ว หรือตลอดมาทำตามนั้น เชื่อแบบนั้นก็จบไม่มีมาถึงวันนี้ และบางคำเเนะนำว่าถ้าแพ้ขึ้นมาวันใดจบเลยนะ จะไม่มีใครสนใจ ตำนานจะไร้ค่า อยากบอกว่าที่ผ่านมา แพ้ อี้หลง, แพ้ ริสโค่, แพ้รัสเซีย แถม 3 ไฟต์หลังเสมอหมด แถมล่าสุดแพ้คะแนนใน K-1
อยากให้ทราบว่า คุณค่าของนักสู้ ไม่ได้วัดที่ ผลแพ้ชนะอย่างเดียว ไม่ได้วัดกันที่สถิติหรูๆ ไม่ได้สนใจมุ่งไปสู่คำว่าตำนานเท่านั้น แต่เป็นนักสู้ให้โลกนี้จดจำ อันนี้สะใจกว่า ปล. มีคนรับไม่ได้อีกบาน กราบขออภัยกับความเห็นแบบนี้ครับ
ตลอดการชกมวยของพี่บัวขาวที่ผ่านมา เริ่มมีคนพูดว่า พอได้แล้ว หยุดเถอะ เลิกเดี๋ยวนี้ ให้เป็นตำนาน จะได้เก่งเป็นที่สุด ควรไปทำอย่างอื่นได้แล้ว? ทีมงานได้ยินเรื่องแบบนี้มา ตั้งแต่พี่บัวขาวได้แชมป์ K-1 สมัยที่ 2 คืออายุ คือ 24-25 ปีให้เลิกชกมวยซะ เป็นเวลา 18 ปีเต็มสำหรับเรื่องนี้ ได้เป็นตำนาน ตรรกะเหตุผลคือไรครับ ให้ยกธงขาวให้เร็วที่สุดจะได้เก่งหรือครับ
แต่เหตุผล ของเราเป็นวิทยาศาสตร์ครับไม่ได้มโนเอา มีการวัดประเมินผลทางร่างกายกับทางแพทย์ว่าพร้อมไหม ทั้งทางร่างกายและจิตวิทยา การทดสอบสมรรถภาพและประเมินผล สมัยนี้ความรู้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การกีฬามีและเอามาใช้ได้จริง อยากให้หลายๆ ท่านว่างๆ ได้ศึกษาทำความเข้าใจหาความรู้เรื่องนี้ไปด้วยกัน เป็นความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
ถ้าไม่ไหว ผลการประเมินก็ออกมาเองครับเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ถึงกับไม่ฟังใคร ดันทุรังลากสังขารไปต่อยมวย ก็ไม่ได้ขนาดนั้น มองอีกด้าน 18 ปีที่ผ่านมาถ้าเชื่อและคิดตามข้อมูลเหล่านี้ 18 ปีจะเสียโอกาสในด้านต่างๆ ขนาดไหนลองคำนวณกันดูครับ
แล้วที่รีบให้เลิกเร็วๆ กัน มีตัวอย่างที่น่าเอาอย่างตาม มีใครบ้างครับขอข้อมูลหน่อยครับ จะได้รับฟังข้อมูลตรงนี้จากทุกท่านได้ไปเป็นข้อมูลครับ จะให้เดินรอยตามตำนานใครบ้าง บางทีนะครับคำว่าตำนานในใจของใครคืออะไร
แต่เมื่อเป็นนักรบแล้วต้องรบ บางทีเราไปถามนักรบว่าจะเลิกเป็นนักรบเมื่อไหร่ ไปถามครูอ่าวเมื่อไหร่จะเลิกสอน ไปถามพระนักปฎิบัติ เมื่อไหร่สึกจะเลิกภาวนาสมาธิ น้อยครั้งนะครับในตำนาน รบชนะเยอะละ ยกธงขาวดีกว่าวางอาวุธ จะได้เป็นตำนานดีกว่า"