DITP เผย “เศรษฐกิจสัตว์เลี้ยง”สร้างความเติบโตและวิถีชีวิตยุคใหม่
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตลาดเอเชียถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้มากที่สุด
Pets Economy หรือเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยงถือเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่ได้กำเนิดขึ้นจากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและวิถีชีวิตยุคใหม่ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยงดังกล่าวได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากตลาดการค้าสัตว์เลี้ยงดั้งเดิมไปจนถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง บริการเสริมความงามสัตว์เลี้ยง บริการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง บริการฝึกอบรมสัตว์เลี้ยง บริการหาคู่สัตว์เลี้ยง บริการฝังศพสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ถือเป็นเศรษฐกิจที่ครบวงจรตั้งแต่เกิดถึงตายที่สามารถทำเงินได้จากสัตว์เลี้ยง ทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่อยู่เบื้องหลังสัตว์เลี้ยงได้ค่อยๆ พัฒนาขึ้น และขยายไปทุกสาขาของอุตสาหกรรมการผลิตและการให้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นหนึ่งในสิบอุตสาหกรรมเกิดใหม่ของจีนที่สามารถทำเงินได้ดีในอนาคต
การบริโภคสัตว์เลี้ยงทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตลาดเอเชียถือเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดจีนที่ถือว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาตลาดสัตว์เลี้ยงของเอเชียมากที่สุดประเทศหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดที่พบว่าจีนมีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยประมาณ 100 ล้านตัว และศักยภาพตลาดเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยงของจีนก็สูงถึง 15,000 ล้านหยวน (75,000 ล้านบาท) ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงคาดการณ์ว่ายอดขายของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง และตลาดของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงของจีนจะมีมูลค่ารวมกันถึง 6,000 ล้านหยวน (30,000 ล้านบาท) ซึ่งของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงนั้นมีหลากหลายประเภท เช่น ของใช้สำหรับสุนัขและของใช้สำหรับแมว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแมวและสุนัข ของใช้สัตว์อื่นๆ ของใช้สำหรับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง สัตว์เลื้อยคลาน กรงนก ของใช้สำหรับปลาสวยงาม ปลาน้ำจืด น้ำเค็ม ของขวัญของที่ระลึกทั้งของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ เป็นต้น (อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน เท่ากับ 5 บาท)
สำหรับประเทศในโซนยุโรป พบว่ามีบ้านที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจำนวน 75 ล้านครัวเรือน และเจ้าของสัตว์เลี้ยงร้อยละ 91 จะมีของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่สัตว์เลี้ยงของตน ขณะที่ครอบครัวชาวอเมริกันเกือบร้อยละ 70 อย่างน้อยมีสัตว์เลี้ยง 1 ตัว และคาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจำนวนสัตว์เลี้ยงจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งอัตราการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการข้ามพรมแดนในตลาดสัตว์เลี้ยงของสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นอย่างมาก
เมื่อพิจารณาสถานการณ์การพัฒนาของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เปรียบเทียบกับในอดีตจะพบว่า ในปัจจุบันผู้เลี้ยงสัตว์นิยมเลี้ยงเหมือนลูกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตลาดอี้อู๋โซนที่จำหน่ายสินค้าระหว่างประเทศจะมีผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงที่หลากหลายจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าการบริโภคสัตว์เลี้ยงได้กลายเป็นแนวโน้มใหม่ของการบริโภคของประชาชนในยุคปัจจุบันไปแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่ามีการออกแบบเครื่องนุ่งห่มให้แก่สัตว์เลี้ยงมากขี้น ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยง มีทั้งเสื้อกันฝน เสื้อกันหนาว เสื้อผ้าฤดูร้อน ชุดกระโปรง และเสื้อผ้าอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีชุดแต่งงาน สูท กี่เพ้า เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น ในอดีตที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ยิ่งทำให้คนได้ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นตามไปด้วยและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลจากการสำรวจที่พบว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงร้อยละ 21 ใช้จ่ายให้กับสัตว์เลี้ยงของตนมากกว่าก่อนช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19
สำหรับผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงข้ามพรมแดน ก็มีผลิตภัณฑ์จำนวนมากให้เลือก เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย ของเล่น เฟอร์นิเจอร์ ปลอกคอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอีกแนวโน้มที่ใหม่ที่น่าสนใจคือ เจ้าของสัตว์เลี้ยงมักจะใช้รูปแบบการดำเนินชีวิตของตนมาดูแลสัตว์เลี้ยง ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่สนใจอาหารออร์แกนิกส์ หรือผลิตอาหารธรรมชาติ ก็จะมองหาผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันให้กับสัตว์เลี้ยงเช่นกัน
ข้อมูลจาก https://www.ditp.go.th/
เรียบเรียงโดย ชาคริตส์ คงหาญ