ในที่สุดก็จบ "ลูกหมี รัศมี" ชนะคดีผิดสัญญาเงินกู้ ลูกหนี้ต้องชดใช้

"ลูกหมี" ประกาศชนะคดีผิดสัญญาเงินกู้ โดยวันที่ 12 มิ.ย. 68 "ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี" นางแบบชื่อดัง เคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรม @lookmeerussame เผยข่าวดี ระบุว่า "ในที่สุด ก็จบ!!! ศาลพิพากษา ลูกหมีชนะคดีผิดสัญญาเงินกู้ ลูกหนี้ต้องชดใช้เงินรายละเอียดขอชี้แจ้งพรุ่งนี้ศุกร์ 13 มิ.ย. 68 เวลา 16.00 น. ที่สำนักทนายความเดชา กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจตลอดมาค่ะ"

ทางด้าน "ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์" โพสต์ข้อความผ่านเพจ "ทนายกุ้ง – นักสืบ คลายทุกข์" ระบุว่า... ชนะไปอีก 1 คดี ลูกหมีเป็นโจทก์ฟ้องลูกหนี้

 

ฟ้องผิดสัญญากู้ยืม :::

 

พยานหลักฐานที่โจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยชักชวนโจทก์กับทุนทำธุรกิจ โดยให้โจทก์ลงทุนเมื่อขายสินค้าได้ จำเลยจะคืนเงินต้นและกำไรให้โจทก์ การโอนเงินระหว่างโจทก์และจำเลยเป็นการลงทุนทำธุรกิจกัน เมื่อถึงกำหนดที่จำเลยจะต้องคืนเงินที่โจทก์นำไปลงทุนคืนแต่จำเลยไม่คืนเงินให้โจทก์โจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญาเงินกู้กัน

 

จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเงินกู้รวมดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปีเข้าไว้ด้วยสัญญาเงินกู้จึงตกเป็นโมฆะ จำเลยนำสืบถึงความไม่สมบูรณ์ของสัญญาซึ่งจำเลย สามารถนำพยานบุคคลมาสืบหักล้างสัญญาเงินกู้ได้ ….

 

โจทก์มีเพียงหลักฐานยืนยันว่าจำเลยลงลายมือชื่อในสัญญาเงินกู้ที่มีการกรอกข้อความครบถ้วนแล้ว หลังจากนั้นส่งให้จำเลยลงลายมือชื่อแล้วโจทก์และพยานของโจทก์จึงลงลายมือชื่อ

 

การทำเงินกู้ระหว่างโจทก์และจำเลยมีลักษณะการทำเป็นขั้นเป็นตอนเชื่อว่าโจทก์ส่งข้อความในสัญญาเงินกู้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยสัญญากู้จึงเป็นเอกสารปลอม (ตามที่จำเลยต่อสู้อ้างว่าโจทก์ให้เซ็นเอกสารเปล่า จำเลยเซ็นเอกสารโดยที่ไม่มีการกรอกตัวเลขลงไปในสัญญาเงินกู้)

ประกอบกับจำเลยเป็นคนผู้มีความรู้และประสบการณ์ชีวิตพอสมควรโดยในปีพ.ศ. 2541 จำเลยกับตำแหน่งรองสาวไทยอันดับสองประกอบอาชีพแสดงมานานหลายปีย่อมเข้าใจและรู้ถึงผลการทำสัญญาพอสมควร อีกทั้งข้อความมาซื้อทั้งกู้เงินเป็นข้อความที่มีความหมายเข้าใจง่ายไม่มีความสลับซับซ้อนวิญญูชนทั่วไปอ่านแล้วย่อมเข้าใจได้การที่จำเลยยินยอมลงลายมือชื่อในสัญญากู้ยืมเงินที่มีการกรอกข้อความครบถ้วนแล้วจำเลยย่อมรู้ว่าหากตนลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงินดังกล่าวแล้วตนจะต้องผูกพันตามข้อความที่ปรากฏในสัญญาดังกล่าว

 

ซึ่งหากสัญญากู้มีข้อความใดไม่ถูกต้องจำเลยสามารถปฏิเสธที่จะไม่ลงลายมือชื่อในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวได้หลังจากนั้นโจทก์ได้ส่งสัญญาการกู้ไปให้จำเลยทางแอพพลิเคชั่น LINE และจำเลยส่งสติกเกอร์ตอบกลับว่าโอเค โดยไม่ปรากฏข้อความว่าจำเลยโต้แย้งสัญญาดังกล่าวจึงถือว่าจำเลยได้ยอมรับที่จะผูกพันข้อความในสัญญานั้นผู้ดังกล่าวประกอบกับจำเลยไม่มีพยานหลักฐานมาหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้เมื่อโจทก์มีพยานหลักฐานสัญญาเงินกู้ ระบุข้อข้อความว่าจำเลยกู้เงินจากโจทก์จำนวนสองล้านบาทโดยจำเลยไม่ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว

 

และจะชำระคืนให้โจทก์ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จำเลยสองล้านบาทตามสัญญากู้ยืมเงิน

 

จบข่าว… แต่รายละเอียดเพิ่มเติมจะแถลงข่าววันนี้พรุ่งนี้ วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00 น. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์!