ของขวัญ 6 อย่าง ตามความเชื่อ ไม่ควรมอบให้คนรัก เพราะอาจทำให้ต้องเลิกกัน

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยคิดหนักเวลาที่ต้องหาของขวัญสักชิ้นไปมอบให้คนสนิท ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน โดยเฉพาะคนรัก ว่าควรจะซื้ออะไรไปมอบให้ดี วันนี้เรามีของ 6 อย่าง ตามความเชื่อโบราณที่ควรหลีกเลี่ยงไม่เหมาะแก่การจะนำไปมอบให้เป็นของขวัญ เพราะอาจจะไม่เป็นมงคล หรือถึงขึ้นต้องเลิกรากันไป

1.นาฬิกา

การมอบนาฬิกาให้กัน เหมือนเป็นการบ่งบอกระยะเวลาที่จะคบกัน เมื่อไหร่ที่นาฬิกา หยุดเดินความสัมพันธ์ก้ต้องจบลงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะมอบนาฬิการให้กันจริงๆ ควรหมั่นดูแลให้นาฬิให้เดินอยู่ตลอดเวลา

2.เข็มกลัด

เข็มกลัด ต่อให้เป็นเครื่องประดับที่น่ารัก หรือสวยหรูดูแพงขนาดไหน ก็ไม่ควรมอบให้คนที่รัก เพราะตามความเชื่อการใช้เข็มกลัดต้องเอาเข็มกลัดลงไปที่ผ้า เหมือเป็นการมอบความเจ็บปวด การทิ่มแทงใจให้กัน และอาจนำมาซึ่งปัญหาการทะเลาะ

3.รองเท้า

รองเท้าเป็นสิ่งที่เรามักจะเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆว่าคู่รักไม่ควรมอบให้กัน สำหรับคนที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน การมอบรองเท้าให้เหมือนเป็นลางร้าย โดยมีความหมายโดยนัยว่า "ให้เดินออกไปจากชีวิต" สำหรับคู่ที่แต่งงานแล้ว การจะมอบรองเท้าให้กันนั้นต้องดูแลให้ดี ถ้าเกิดทำรองเท้าหายอาจะหมายถึงชีวิตคู่ของคุณต้องจบลง ต้องมีการหย่าร้าง

4.ผ้าเช็ดหน้า

ผ้าเช็ดหน้า ตามลักษณะการใช้ก็คือ เอาเช็ดหรือซับหน้า อาจเป็นเหงื่อ หรือ อาจจะเป็นน้ำตา ว่ากันว่าคนรักที่มอบผ้าเช็ดหน้าให้กัน คนที่ได้รับอาจจะเจอแต่เรื่องที่ทำให้เสียน้ำตา โศกเศร้าเสียใจ

5.น้ำหอม 

เดี๋ยวนี้น้ำหอมยี่ห้อต่างๆ ก็มีบรรจุที่ดูดี สวยหรู บวกกับตัวน้ำหอมที่มีกลิ่นดี ดูน่าจะนำไปมอบให้เป็นของขวัญ แต่น้ำหอมนั้นต่อให้กลิ่นหอมขนาดไหน ก็ต้องมีกลิ่นก็ต้องจางหายไป เปรียบเหมือนกับความรักที่ตอนรักกันแรกๆทุกรอบด้านดีไปหมดอบอวลไปด้วยความรัก พอเวลาผ่านไปก็จืดจางลง

6.ของมีคม
ของมีคมที่ว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น กรรไกร มีด เครื่องประดับที่มีความแหลม หรือแม้แต่ของเล่น ไม่ควรนำไปมอบให้เป็นของขวัญ เพราะตามความเชื่อของมีคนต่างๆเหมือนเป็นตัวนำอันตรายมาสู่ตัวที่ได้รับ ให้เจอกับเรื่องร้ายๆ อาจถึงขั้นเลือดตกยางออก

 

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เป้นเพียงส่วนหนึ่งของความเชื่อโบราณ จริงๆแล้วยังมีของอีกหลายสิ่งที่ไม่ควรนำมามอบเป็นของขวัญให้กัน แต่ในยุคสมัยนี้จะเห็นได้ว่าของต่างๆที่กล่าวมานั้นก็มีนิยมนำมามอบให้กันอยุ่บ่อยๆ อาจจะเห็นว่าของสิ่งนั้นเหมาะสมกับผู้รับจริงๆ และคำนึงถึงว่าถ้าผู้ได้ไปจะได้ใช้จริง หรือของสิ่งนั้นมีสวยงามดูดีเหมาะแก่การเป็นของขวัญ ก็จะมีการแก้เคล็ดเล็กๆน้อยๆ คือ ผู้ที่ได้รับของชวัญนั้นให้เงินสักบาท สองบาท กับผู้ที่มอบของให้ เป็นการแก้เคล็ดว่าเราเป็นผู้ที่ซื้อของเอง ไม่ใช่ได้รับเป็นของขวัญ