วาไรตี้

heading-วาไรตี้

ของ 10 อย่าง ที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ อาจเสี่ยงเกิดอันตราย

14 ก.ค. 2564 | 15:39 น.
ของ 10 อย่าง ที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ อาจเสี่ยงเกิดอันตราย

เผยของ 10 อย่าง ที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ ก่อนที่จะเอาอะไรเข้าไมโครเวฟก็ต้องดูให้ดีก่อนว่าของชิ้นนั้นสามารถเอาเข้าได้หรือไม่ บางอย่างก็มีจะเขียนกำกับไว้ว่าห้ามเอาเข้า บางอย่างก็สามารถเอาเข้าได้เพราะฉะนั้นควรดูให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตราย

ก่อนที่จะเอาอะไรเข้าไมโครเวฟก็ต้องดูให้ดีก่อนว่าของชิ้นนั้นสามารถเอาเข้าได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตราย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1.นมแม่
สำหรับคุณแม่ การให้น้ำนมลูกนั้น นอกจากจะเพื่อให้เด็กเจริญเติบโตแล้ว ยังเป็นการเพิ่มแอนติเจน หรือภูมิคุ้มกันร่างกายนั่นเอง แต่หากนำนมเอาแม่ที่คั้นแล้วไปอุ่นในไมโครเวฟ ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เนื่องจากอุณภูมิที่พอเหมาะของไมโครเวฟจะทำให้เชื้อแบคทีเรียอีโคไลในน้ำนมเติบโตขึ้นถึง 18 เท่า อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้

2.ไข่

ไข่
ไข่นั้นถือเป็นอาหารอีกชนิด ที่ถูกทำให้เกิดความร้อนด้วนคลื่นไมโครเวฟแล้วเกิดระเบิดขึ้นมา ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าไข่มีเปลือกแข็งและมีเยื่อหุ้มไข่ขาวที่เหนียว ทำให้สามารถทนรับแรงดันได้สูง ไมโครเวฟทำให้น้ำในไข่ร้อนจนกลายเป็นไอ เมื่อมีใครไปกะเทาะเปลือกไข่ แรงดันทั้งหมดก็จะพุ่งออกมาจากจุดที่ถูกกะเทาะนั้นทำให้เกิดการพุ่งระเบิดออกมาพร้อมกันในคราวเดียว การบาดเจ็บที่เกิดจากไข่ในไมโครเวฟมีได้ตั้งแต่ถูกไข่ร้อน ๆ ลวกใบหน้าไปจนกระทั่งเศษเปลือกไข่ทิ่มทะลุเข้าไปในลูกตา การลวกหรือปรุงอาหารประเภทไข่ในไมโครเวฟ จึงควรทำโดยการตอกไข่ออกมาจากเปลือกและจิ้มส่วนไข่แดงให้แตกก่อนนำเข้าไมโครเวฟ

3.น้ำเปล่า

น้ำเปล่า
เมื่อใส่น้ำลงในเครื่องไมโครเวฟจะทำให้น้ำมีความร้อนสูงขึ้นจนทำให้เกิด การเปลี่ยนเป็นไอน้ำพร้อม ๆ กันแล้วพุ่งระเบิดขึ้นจากแก้วได้ วิธีป้องกันคือการใส่ช้อนหรือตะเกียบไม้ลงไปในน้ำนั้น เพื่อให้น้ำมีจุดให้เกาะ และกลายสภาพเป็นไอโดยไม่เกิดการระเบิดพุ่ง หรือหากจะชงกาแฟหรือนม ก็ให้ผสมส่วนผสมลงไปตั้งแต่แรก ก็จะป้องกันได้เช่นกันคะ

4.พลาสติกและโฟม

พลาสติก
ต้องบอกว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะพลาสติกและโฟมมีอุณหภูมิจุดหลอมเหลวต่างกันไป การนำพลาสติกที่มีจุดหลอมเหลวต่ำเข้าไมโครเวฟจะทำให้เกิดการหลอมละลายของภาชนะจนเสียรูป และอาจละลายลงไปในอาหารได้ ดังนั้นหากจะใช้ภาชนะพลาสติกหรือโฟมก็ต้องสังเกตเครื่องหมายที่ติดอยู่กับภาชนะว่าสามารถนำเข้าเตาไมโครเวฟได้หรือไม่ และทางที่ดีไม่ใช้ภาชนะจากโฟมจะดีกว่า หากไม่มีทางเลือกก็ต้องดูด้วยคะว่าหลังจากเรานำพาชนะที่เป็นโฟมเข้าไปแล้ว เมื่ออกมามีรูปทรงที่บิดเบี้ยวแตกต่างจากเดิมหรือไม่ ถ้ามีแนะนำว่าไม่ควรทานเด็ดขาด

5.เครื่องกระเบื้องเคลือบ

เครื่องกระเบื้องเคลือบ
กระเบื้องเคลือบนั้นมีส่วนผสมของโลหะและมีลวดลายมากมาย ซึ่งไม่มีความทนทานความร้อนได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งอาจจะทำให้ภาชนะอาจแตกหรือร้าวได้

6.ผักต่างๆ และบล็อคโคลี่

ผักต่างๆ และบล็อคโคลี่
การใช้ความร้อนในการทำอาหารประเภทผัก ไม่ว่าจะเป็น นึ่ง หุง ต้ม ผัด หรือทอด ต่างก็ทำให้สูญเสียสารอาหารในผักทั้งสิ้น ทั้งนี้อัตราการสูญเสียก็แล้วแต่วิธีการที่แตกต่างกันไป และจากผลการวิจัย การนำผักบล็อคโคลี่ไปใช้กับไมโครเวฟ ทำให้สูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักถึง 97% เลยทีเดียว

7.ผลไม้แช่แข็ง

ผลไม้แช่แข็ง
การแช่แข็งผลไม้หลังการเก็บเกี่ยวเป็นอีกวิธีที่จะรักษาคุณค่าทางอาหารของผลไม้นั้นๆได้ และเราคงจะเคยเห็นในห้างสรรพสินค้า ที่มีการนำเอาผลไม้แช่แข็งมาวางขายกันบ้าง แต่จากผลการวิจัย การนำเอาผลไม้แช่แข็งไปใช้กับไมโครเวฟ จะทำให้น้ำตาลที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในผลไม้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสารก่อมะเร็งค่ะ

8.เนื้อสัตว์ แช่แข็ง
การนำเอาเนื้อสัตว์แช่แข็งไปละลายในไมโครเวฟ จะทำให้เชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเจริญเติบโต ดังนั้นจึงควรทำให้หมดในครั้งเดียว ไม่ควรเก็บไว้ทำอาหารในครั้งต่อไป นอกจากนี้ผลการวิจัยจากญี่ปุ่นเผยว่า การนำเอาเนื้อสัตว์ไปทำอาหารในไมโครเวฟเกิน 6 นาที จะทำให้วิตามิน B-12 ในเนื้อสัตว์ลดลงไปครึ่งหนึ่งเลยล่ะ วิธีการที่ดีที่สุดในการละลายน้ำแข็งของเนื้อสัตว์แช่แข็งก็คือการนำไปแช่น้ำหรือแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา เป็นเวลาหนึ่งคืน

9.ฟอยล์ห่ออาหาร พลาสติกใสเคลือบอาหาร

พลาสติกใสเคลือบอาหาร
ตามร้านอาหารที่มีการหุ้มด้วยฟอยล์ ก่อนน้ำเข้าไมโครเวฟทุกครั้งต้องนำฟอยล์ออกก่อนเพื่อนป้องกันความร้อนที่จะทำให้เกิดการลุกไหม้ ได้ ส่วนพลาสติดเคลือบอาหารนั้นปััจุบันจะพบในรูปแบบของอาหารสำเร็จที่มีการกันด้วยพลาสติกใสไว้คะ ซึ่งต้องอย่าลิมเอาพลาสติกใสนั้นออกด้วย เพราะจะทำให้มีสารก่อมะเร็งได้

10.ภาชนะที่เป็นโลหะ

ภาชนะที่เป็นโลหะ
เหตุที่เป็นภาชนะโลหะไม่ได้ก็เนื่องมาจากเมื่อคลื่นไมโครเวฟถูกส่งผ่านไปยังส่วนที่เป็นโลหะ จะทำให้กระแสไฟฟ้าและเกิดความร้อนขึ้นบริเวณนั้น และสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้คิดถึงคงจะเป็น ไฟที่อาจจะลุกไหม้ขึ้นได้ ซึ่งตัวภาชนะไม่ได้มีการหลอมละลายหรือระเบิด แต่จะมีสารปะปนไปยังอาหารและทำให้เกิดอันตรายกับเราได้ ซึ่งไม่คุ้มแน่ๆถ้าจะต้องเค้าโรงพยาบาล

ข่าวเด่น

รวบคาบ้าน เอก กระโดดกำแพงลักทรัพย์นายจ้างเก่า มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

รวบคาบ้าน เอก กระโดดกำแพงลักทรัพย์นายจ้างเก่า มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

นึกไม่ถึงสิ่งที่ เจ้าของแบรนด์ ทำ หลัง อินฟลูดัง ใช้ลิปสติกตัวเทสต์ทาที่ปาก

นึกไม่ถึงสิ่งที่ เจ้าของแบรนด์ ทำ หลัง อินฟลูดัง ใช้ลิปสติกตัวเทสต์ทาที่ปาก

เผยอาการ "เป็ด เชิญยิ้ม" หลังแอดมิทด่วน ติดเชื้อโนโรไวรัส

เผยอาการ "เป็ด เชิญยิ้ม" หลังแอดมิทด่วน ติดเชื้อโนโรไวรัส

สุดยี้ ร้านอาหารจีนตลาดคลองเตย ไรเดอร์รุมแฉ เหม็นจนจะอ้วก

สุดยี้ ร้านอาหารจีนตลาดคลองเตย ไรเดอร์รุมแฉ เหม็นจนจะอ้วก

หมอช้าง เปิดดวงปี 2568 เตือนราศีระวังทุกขลาภ ขึ้นโรงขึ้นศาล มีปัญหาถูกโกง

หมอช้าง เปิดดวงปี 2568 เตือนราศีระวังทุกขลาภ ขึ้นโรงขึ้นศาล มีปัญหาถูกโกง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง