ทำความรู้จัก "โรคตากุ้งยิง" เป็นแล้วต้องดูแลอย่างไร
กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เผยตากุ้งยิงสาเหตุเกิดจากเปลือกตาไม่สะอาด ไม่ใช่โรคติดต่อ หายเองได้
กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เผยตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ สาเหตุเกิดจากเปลือกตาไม่สะอาด ขยี้ตา ฝุ่น ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาดเท่าที่ควร ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างออก ไม่หมด จากการขยี้ตาจนทำให้ต่อมที่เปลือกตา อุดตัน และเกิดการอักเสบตามมา โรคตากุ้งยิงมักจะมีอาการเคืองตา ปวดหนังตา เวลากลอกตาหรือหลับตา จะทำให้ปวด มีตุ่มบวมแดง หรือเป็นหนองที่เปลือกตา บางรายบวมมากจนตาปิด บางรายมีหนองไหลออกจากเปลือกตา หากหนองแตกในตาจะทำให้มีขี้ตาเป็นสีเขียว แนะควรพบจักษุแพทย์
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตากุ้งยิงเป็นโรคที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เกิดบริเวณเปลือกตา ซึ่งจะสังเกตได้จากการที่มีตุ่มแดงนูนขึ้นที่เปลือกตา มักจะมีอาการปวด ร่วมด้วย ตากุ้งยิง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้บนผิวหนังของคนปกติ อยู่แล้ว ในภาวะปกติ เชื้อนี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดโรคอะไร แต่ถ้าหากเชื้อนี้เข้าไปสู่ภายใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของ ตุ่ม ฝี หนอง
ตากุ้งยิงโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.External hordeolum เกิดการอักเสบของต่อมไขมันที่ผิวหนัง หรือรากขน เป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านนอกซึ่งเป็นตุ่มหนอง แดง และเจ็บ
2.Internal hordeolum เกิดการอักเสบของต่อมไขมันที่แถบเปลือกตาเป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านใน ซึ่งเป็นตุ่มนูนแดง และเจ็บ
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวเสริมว่า ในส่วนของอาการของตากุ้งยิง เมื่อเกิดอาการตากุ้งยิง เริ่มแรกจะมีอาการเจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณเปลือกตา ต่อมาจะเริ่มบวมแดง และจะเริ่มรู้สึกปวดบริเวณเปลือกตา หากกดลงไปบริเวณก้อนจะรู้สึกเจ็บ จะเริ่มเห็นเป็นหัวฝีหรือหัวหนองภายใน 4 - 5 วัน หลังจากนั้นหนองจะแตก และยุบไป ในกรณีที่หนองออกไม่หมด จะเกิดเป็นก้อนแข็งเป็นไตที่เปลือกตา ซึ่งจะค้างอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานและอาจจะกลับมาอักเสบขึ้นอีกได้เป็นครั้งคราว แต่หากมีอาการปวดมาก และแนวโน้มอาการ ไม่ดีขึ้น มีอาการบวมแดงเป็นบริเวณกว้าง มีอาการตาพร่า หรือ มองเห็นไม่ชัด ควรพบแพทย์ และในกรณีดังกล่าวเหล่านี้ แพทย์อาจจะให้ยาปฏิชีวนะ หรือใช้เข็มเจาะตุ่มฝี เพื่อระบายหนองออก
แพทย์หญิงอรวีณัฏฐ์ นิมิตรวงศ์สกุล จักษุแพทย์ กล่าวเพิ่มว่า ตากุ้งยิง เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตา ซึ่งมักจะเกิดในคนที่ขยี้ตาบ่อยๆ พบเจอฝุ่นละอองสกปรกเข้าตามากๆ และมาขยี้หรือจับตา เหมือนเด็กๆที่ชอบจับแก้มแล้วสิวขึ้น ซึ่งสามารถเป็นแล้วเป็นอีกได้ หากไม่ระวังและรักษาความสะอาดของมือก่อนที่จะมาสัมผัสตา คนไข้ที่เป็นภูมิแพ้ที่คันตาบ่อยๆ หรือนอนดึก อดนอน ระคายเคืองตา ขยี้ตาก็ทำให้เป็นตากุ้งยิงได้บ่อย เวลาเป็นก็สามารถเป็นได้ทั้งเปลือกตาเลย คือบน ล่าง ซ้าย ขวา อาจเป็นได้พร้อมกันได้ การรักษา เมื่อเริ่มมีอาการจะเริ่มมีการบวมแดง เจ็บๆ เคืองๆ ของเปลือกตา แนะนำให้รีบประคบอุ่นบ่อยๆ อาจจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือ เจลร้อน เป็นต้น และห้ามขยี้ตา และใช้ยาหยอดหรือยาฆ่าเชื้อแบบทาน ในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยา สามารถหายเองได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี แต่หากไม่รีบประคบและขยี้ตาอีก และปล่อยให้บวมอักเสบจนขึ้นมาเป็นเม็ดแล้ว โดยมากมักไม่หายต้องมาเจาะเอาหนองออก ถ้าไม่เจาะ บางรายหายได้เองแบบหายสนิท แต่บางรายหายแล้วเป็นไตเป็นเม็ดเหมือนสิวอุดตัน ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย ตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะฉะนั้นการป้องกันไว้ไม่ให้เกิดย่อมดีกว่า คือหลีกเลี่ยงการสัมผัสเปลือกตาด้วยมือที่ไม่สะอาด และไม่ควรขยี้ตา การดูแลรักษาเปลือกตาด้วยการประคบอุ่น เช็ดฟอกเปลือกตาทุกวันช่วยป้องกันการเป็นตากุ้งยิงได้
ขอบคุณ กระทรวงสาธารณสุข