หอยแครง แสนอร่อย ประโยชน์เพียบ เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง
ทางทำกินรวมประโยชน์ของ "หอยแครง" เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมเคล็ดลับลวกหอยแครงให้ได้ความสุกที่ใช่
"หอยแครง" แสนอร่อย ของโปรดใครหลายๆคน เอามาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งลวกกินกับน้ำจิ้มรสแซ่บ หรือจะนำไปเผา ไปยำ ไปต้มก็ได้ทั้งนั้น รู้ไหมนอกจากความอร่อยแล้วหอยแครงมีประโยชน์อะไรบ้าง ทางทำกินมีคำตอบมาให้ บอกเลยว่าดีเกินคาด
หอยแครง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- หอยแครงกินแล้ว ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง หอยแครงอุดมด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง หอยแครงจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่ขาดธาตุเหล็ก คนที่มีภาวะเป็นโรคโลหิตจาง เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับสาวๆ ในช่วงที่มีประจำเดือนด้วย
- กินหอยแครงป้องกันสิว เพราะในหอยแครงอุดมด้วยสังกะสี หรือ Zinc จำนวนมาก ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดสิว ทำให้ผู้ที่เป็นสิวหายได้เร็วขึ้น
- กินหอยแครงลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลม ลดอาการท้องป่อง อาการจุกเสียด แน่นท้อง
- หอยแครง กินแล้วช่วยบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากหอยแครงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เสริมคอลลาเจนในชั้นผิว
เคล็ดลับจับเวลา ลวกหอยแครงกี่นาทีได้เนื้อแบบไหนบ้าง
- 20 วินาที : เนื้อหอยจะสุกพอประมาณพอสะดุ้งน้ำ เมื่อแกะออกมาเลือดยังมีสีแดงสดอยู่ ซึ่งความสุกระดับนี้ หอยแครงจะยังมีความคาวอยู่พอสมควร
- 30 วินาที : เนื้อหอยแครงจะเริ่มสุกกำลังดี เนื้อกรอบ เด้ง แต่ชุ่มฉ่ำ แกะออกมายังมีเลือดอยู่ แต่เลือดจะไม่ใช่สีแดงสด จะเริ่มออกสีน้ำตาลแดงค่อนไปทางเข้ม ส่วนใหญ่จะนิยมกินที่ความสุกระดับนี้
- 1 นาที : เนื้อหอยแครงจะมีสีเข้มขึ้น ไม่เป็นสีอมชมพู แกะออกมาจะไม่มีเลือด เนื้อเด้ง ยังนุ่มอยู่ และไม่มีกลิ่นคาวของเลือดหอยแครง
- 2 นาที : เป็นระดับความสุกที่เต็มที่ เนื้อหอยแครงจะหด มีความเหนียวเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินเลือด และไม่ชอบกลิ่นคาวของหอย กำลังกินได้ง่ายๆ