"ชาปีไหน" นกพิราบในคราบไก่ ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ชาปีไหน? ไม่ใช่คำถามแต่เป็นนก "นกพิราบในคราบไก่" ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ถึงช่วงนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ยังคงปิดทำการประจำปี (16 พฤษภาคม-14 ตุลาคม) เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ประมาณ 70 กิโลเมตร และห่างจากท่าเทียบเรือหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 90 กิโลเมตร ชื่อ“สิมิลัน” เป็นภาษายาวี หรือมลายู แปลว่า “เก้า” จึงมีชื่อเรียกกันว่า หมู่เกาะสิมิลัน หรือเกาะเก้า ประกอบไปด้วยเกาะใหญ่น้อย 9 เกาะด้วยกัน เกาะทั้งเก้าเรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ยังมีทั้งชายหาดที่สวยงาม พืชพรรณ และสัตว์ป่านานาชนิด
ที่แห่งนี้เองที่จะมีโอกาสพบกับชาปีไหน? ซึ่งเป็นนก ชาปีไหนมีหน้าตาเหมือนนกพิราบ แต่เดินคุ้ยเขี่ยหากินแบบไก่ และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Nicobar Pigeon มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า 𝑪𝙖𝒍𝙤𝒆𝙣𝒂𝙨 𝙣𝒊𝙘𝒐𝙗𝒂𝙧𝒊𝙘𝒂 อยู่ในวงศ์เดียวกับนกพิราบ สามารถพบได้ในหมู่เกาะฝั่งทะเลอันดามัน
ชาปีไหน เป็นนกที่ไม่เหมือนนกเพราะชอบอาศัยและหากินบนพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้ อาหารจะเป็นพวกเมล็ดพืชหรือผลไม้ที่หล่นร่วงตามพื้นดิน เจ้าชาปีไหน ยังเป็นนกที่รักสันโดษ ตื่นตกใจง่าย โดยจะหากินตัวเดียวหรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และจากการที่เจ้าชาปีไหนเป็นนกในวงศ์เดียวกับนกพิราบ ชอบหากินบนพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้ จึงทำให้ได้รับการขนานนามว่า “นกพิราบในคราบไก่”
ความมหัศจรรย์ของเจ้านกชาปีไหนยังมีขนาดตัวเท่าไก่แจ้ และแม้จะเป็นนกที่หากินบนพื้นดินเป็นหลัก แต่ก็เป็นนกที่สามารถบินได้ ยังมีรายงานว่าชาปีไหน สามารถบินข้ามไปมาระหว่างเกาะต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ปัจจุบันชาปีไหน ยังถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ุ (Near Threatened) : IUCN Red List
การมีอยู่ของ“นกชาปีไหน”จึงบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติในพื้นที่อนุรักษ์ และหากมีโอกาสมาเยือน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันพบกับชาปีไหน สัตว์น่ารักของที่นี่ ขอให้ทุกคนช่วยกันไม่รบกวนเพื่อให้พวกเขาดำรงอยู่ตามธรรมชาติต่อไปนาน ๆ
ที่มา : ส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช