ตร.รู้ตัวคนร้ายคดี น้องชมพู่ หลังพบดีเอ็นเอเส้นขน 3 เส้น หลักฐานสำคัญ
ตำรวจชุดสืบสวนคดีการตายปริศนา น้องชมพู่ ยังไม่ลดละความพยายาม ล่าสุดได้ผลตรวจดีเอ็นเอเส้นขน 3 เส้น ในจุดที่พบศพแล้ว ทำให้รู้ตัวคนร้ายว่าเป็นใคร ก่อนขอศาลออกหมายจับต่อไป
เรียกว่าผ่านการครบรอบ 1ปี มาหมาดๆ สำหรับคดีของ "น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ที่ถูกพบเป็นศพกลางป่าเขาภูพานน้อย ต.กกตูม จ.มุกดาหาร หลังหายตัวออกจากบ้านเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563
สำหรับความคืบหน้าของคดีน้องชมพู่นั้น ก็ปรากฎว่า เด็กวัย 3 ขวบ ไม่สามารถขึ้นไปบนจุดนั้นได้เอง เนื่องจากมีสภาพสูงและชัน แม้ความคืบหน้าของคดีจะไม่ทันใจใครหบายคน แต่ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พูดย้ำหลายครั้งว่า คดีนี้ต้องมีคำตอบ
ล่าสุดมีรายงานว่า ชุดสืบสวนพบหลักฐานสำคัญ ตรงจุดที่พบศพ กางเกง รองเท้า และเส้นขนจำนวน 3 เส้น เมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ จนสามารถระบุได้แล้วว่า เป็นเส้นขนของใคร
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเส้นผมน้องชมพู่ ถูกหั่น 30 เส้น และคำให้การพยานแวดล้อม 8 ปาก ที่ได้เข้าเครื่องจับเท็จ คือ พ่อแม่น้องชมพู่ ,ลุงพล ,ป้าแต๋น ,พระครูบารัตน์ ,พระบุญมา , เจ๊บุญมาและพ่อแบม
สำหรับหลักฐานในจุดพบศพ จะเป็นหลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยไขปริศนาว่า ใครคือคนร้าย ก่อนนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับ และสรุปสำนวนคดีในเร็วๆ นี้
ขณะที่นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความส่วนตัวของนายไชยพล วิภา หรือลุงพล ระบุว่า ตัวเองเป็นทนายความในทุกคดีของลุงพล ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ส่วนคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เป็นหน้าที่ของนายษิทรา เบี้ยงบังเกิด ทนายความชื่อดัง ซึ่งตัวเองไม่ขอออกความเห็นในส่วนนี้