เรือนจำเชียงใหม่ ปลอดโควิด หลังพบผู้ต้องขังติดเชื้อกว่า 4,000 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ประกาศคืนพื้นที่ปลอดภัยจากโควิด-19 คืนให้กับเรือนจำกลางเชียงใหม่ หลังพบผู้ต้องขังติดเชื้อกว่า 4,000 ราย จนต้องใช้ระบบ Bubble and Seal เข้าควบคุม
วันนี้ (31 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุมเดชะตุงคะ ภายในกองบิน 41 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ , นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ , นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง และพล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามตามระบบ Bubble and Seal ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และการส่งมอบภารกิจของทีมแพทย์ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ให้กับเรือนจำกลางเชียงใหม่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
โดยสถานการณ์ล่าสุดของเรือนจำกลางเชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 4,170 ราย จากผู้ต้องขัง 6,502 ราย รักษาหายแล้ว 3,768 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 269 ราย และเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย สำหรับจังหวัดเชียงใหม่เข้าดำเนินการตั้งโรงพยาบาลสนามตามระบบ Bubble and Seal ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่มาแล้ว 28 วัน ระหว่างวันที่ 26 เมษายน -28 พฤษภาคม 2564
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ถือว่าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ได้มีการส่งมอบพื้นที่ของเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ระบบปกติอย่างเป็นทางการในวันนี้ สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่เรือนจำ สุขภาพของผู้ต้องขังทั้งหมด ได้รับการตรวจคัดกรองดูแลเป็นที่เรียบร้อย ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพบกที่ส่งทีมงานที่มีขีดความสามารถสูงเข้ามาทำงานในพื้นที่ เพื่อให้การปฏิงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตอนนี้ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ มีผู้ต้องขังที่มีภูมิคุ้มกันถึงร้อยละ 95 หมายความว่าจะไม่มีการระบาดในเรือนจำกลางอีกแล้ว ยังเหลือผู้ป่วยที่กำลังรักษาประมาณ 200 กว่าคน ในโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ หลังจากผู้ป่วยรายสุดท้ายของเรือนจำรักษาหายเป็นเวลา 14 วันแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเท่ากับว่าพื้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย สามารถบอกว่าปลอดภัยกว่าพื้นที่ด้านนอกด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าผู้ต้องขังมีภูมิคุ้มกันหมู่ถึงร้อยละ 90
นพ.จตุชัย กล่าวต่อว่า หลังจากนี้การกลับมาระบาดถือว่าค่อนข้างยากเนื่องจากว่าผู้ต้องขังที่รักษาหายแล้วพ้นโทษออกไป จะมีการกักตัวที่ทางอำเภอแม่แตงจัดไว้ให้ 14 วันถึงจะปล่อยกลับสู่ครอบครัว และผู้ต้องขังชุดใหม่ที่จะเข้ามาจะช่วงเวลาห่างกันพอสมควร เมื่อถึงเวลานั้นคนไทยน่าจะมีการได้รับวัคซีนไปแล้วร้อยละ 70
พล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า สำหรับภารกิจที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีโมเดลหรือรูปแบบ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อีกหลายสถานการณ์ ซึ่งการใช้ยารักษาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ที่บ่งบอกได้และต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้สถานการณ์สงบได้โดย สิ่งสำคัญคือการสร้างคนและสร้างระบบที่เกิดขึ้นในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ได้ ซึ่งตนยืนยันว่าในขณะนี้ ทั้งคนและระบบได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และถัดจากนี้ไปก็คือการนำเอาโมเดลไป วิเคราะห์และศึกษาว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามขณะนี้เท่าที่ทราบมาพบว่ากลุ่มผู้ต้องขังที่อยู่ภายในเรือนจำมีขวัญและกำลังใจที่ดีขึ้นมาก รวมไปถึงทุกคนมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานทุกคน ที่เสียสละ ทุ่มเทแรงในการช่วยกันทำให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็วเพียงระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน