สังคม

heading-สังคม

"ประยุทธ์"ลั่น สูตรในการจัดสรรวัคซีน 4 ข้อ จบในโพสต์เดียว

15 มิ.ย. 2564 | 14:28 น.
"ประยุทธ์"ลั่น สูตรในการจัดสรรวัคซีน 4 ข้อ จบในโพสต์เดียว

"พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความระบุถึงประเด็น “สูตร” ในการจัดสรรวัคซีน ที่ได้สั่งการลงไป 4 ข้อด้วยกัน ให้ประชาชนนั้นได้อ่านและทำความเข้าใจ

"พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า  

เรียนพี่น้องประชาชนทุกท่าน
นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ที่เราเริ่มประเดิม คิกออฟวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีน พร้อมกันทั่วประเทศ จนถึงวันนี้ เราฉีดไปได้มากกว่า 2 ล้านโดส ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยในภาพรวมที่ผ่านมา เรากระจายวัคซีนไปทั่วประเทศมากกว่า 7 ล้านโดส และฉีดวัคซีนไปได้ถึงมากกว่า 6.5 ล้านโดสแล้ว นับเป็นความร่วมแรง ร่วมใจกันอย่างเต็มที่ของเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการ ผมต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ส่วนปัจจัยที่สำคัญ ที่จะทำให้การระดมฉีดวัคซีนดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ การจัดสรรวัคซีนไปยังจุดบริการทั่วประเทศ อย่างทั่วถึงและพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ท่านอาจจะได้รับฟังจากข่าว หรือการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาจทำให้ท่านเกิดความไม่สบายใจ และเข้าใจว่าภาครัฐไม่ได้จัดสรรวัคซีนให้อย่างเพียงพอ หรือภาครัฐไม่ได้มีการประสานงานกันอย่างดีพอ ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ผมได้รับทราบทุกๆ เรื่อง และผมขอเรียนอย่างจริงใจว่า ปัญหาเหล่านี้ทำให้ผมเองไม่สบายใจอย่างยิ่งเช่นกัน และได้พยายามหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทุกวัน ด้วยการสั่งการไปยังผู้ที่รับผิดชอบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด  

 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

​ก่อนอื่น ผมต้องขอเรียนชี้แจงภาพรวมในการดำเนินการตามวาระแห่งชาติเรื่องการฉีดวัคซีน ว่าแต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง  
​โดยลำดับแรก ศบค. ผู้เป็นองค์กรสูงสุดในการจัดการสถานการณ์โควิด และการฉีดวัคซีน มีความรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย กำหนดหลักการในการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด โดยมีหลักการว่า ทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีนตามสัดส่วนจำนวนประชากร และเพิ่มเติมให้กับจังหวัดที่มีสถานการณ์ระบาด รวมทั้งเพิ่มเติมกลุ่มบุคคลที่มีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ ในลำดับที่สอง หน่วยงานหลักที่รับมอบนโยบายจาก ศบค. นั่นคือกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดว่า วัคซีนที่ได้รับในแต่ละรอบ จะจัดส่งแต่ละจังหวัดจำนวนเท่าใด ตามหลักการในการจัดสรร โดยกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งจัดส่งวัคซีนในรอบนั้น กระจายไปยังทั่วประเทศในทันทีโดยไม่รอช้า จากนั้นในลำดับที่สาม คือความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัด ที่จะเป็นผู้กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาลและจุดฉีดในจังหวัดนั้น จะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด และจัดการจัดส่งให้อย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรนี้ จะพยายามต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่มี จนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนในรอบต่อไป ให้เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด เนื่องจากการได้รับวัคซีนของเรานั้น เป็นการทยอยมาเป็นรอบ ไม่ใช่ได้มาครั้งเดียว 6 ล้านโดส หรือ 10 ล้านโดส ตั้งแต่ต้นเดือน และเราจะส่งออกทันทีที่ได้รับวัคซีน ไม่ได้รอเก็บไว้จนกว่าจะครบ จึงจะส่งออก  

​ผมขอเรียนชี้แจง ย้ำต่อพี่น้องประชาชน ถึงหลักการ หรือที่เรียกว่า “สูตร” ในการจัดสรรวัคซีน ที่ผมสั่งการลงไป มีดังนี้  
 

​ข้อ 1. เมื่อมีวัคซีนมา กระทรวงสาธารณสุขต้องส่งให้ทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดที่ไม่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ ศบค. พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนั้น 
​ข้อ 2. จำนวนวัคซีนที่นำส่งให้แต่ละจังหวัด จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่นำมาคำนวณ คือ จำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้จองในระบบ ทั้งหมอพร้อมและระบบของจังหวัด และกลุ่มเฉพาะ เช่นอาชีพเสี่ยง พื้นที่เศรษฐกิจ  
​ข้อ 3. หากจำนวนวัคซีนที่ได้ คำนวณแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีด ในระยะเวลา  ในรอบนั้น ให้แต่ละจังหวัดและจุดฉีดพิจารณาจัดสรรให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มโรคเสี่ยง    ที่ลงทะเบียนไว้ก่อน  
​และ ข้อ 4. หากมีความจำเป็น ต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีน ต้องยึดลำดับเดิมไว้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และจัดการฉีดวัคซีนตามลำดับเดิมทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน 
 

​ทั้งนี้ ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายได้มีความพยายาม และดำเนินการอย่างทุ่มเท เพื่อให้บริการกับพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก นั่นคือการนำส่งวัคซีนที่ต้องใช้เวลา ทั้งการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพ ไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนทุกครั้ง ว่าจะได้รับวันใด และจะได้รับเป็นรอบ ไม่ใช่ได้ครั้งเดียวจำนวนมาก ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกต่างต้องเจอกับปัญหานี้ทั้งสิ้น แต่ประเทศไทยนั้นยังมีข้อได้เปรียบ ที่เรามีบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกา ตั้งอยู่ในประเทศไทยของเราเอง ทำให้การขนส่งทำได้อย่างรวดเร็ว อีกปัจจัยหนึ่งคือการปรับแผนการฉีดวัคซีนตามสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้มีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอย่างกรุงเทพมหานคร ได้เริ่มฉีดเพื่อควบคุมการระบาด และเพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจ ทำให้อาจไปกระทบกับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนบางส่วน นอกจากนั้น ต้องยอมรับว่าในภารกิจครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก มีผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในประเทศไทย ทั้ง 70 ล้านคน จึงอาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ในการประสานงานระหว่างหน่วยงาน อย่างไรก็ตามทุกหน่วยงาน มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ทั้งหมด 
​ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการ ศบค. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในสงครามโควิดครั้งนี้ ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และขอเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมได้ทำอยู่ทุกวัน ตลอดเวลา เพราะนี่คือวาระแห่งชาติ ที่เราจะต้องร่วมใจกันทุกฝ่าย ในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในระยะแรกที่วัคซีนยังมีจำกัด ทำให้กระทบต่อการจัดการ แต่จากการวางแผนของรัฐบาล  ในการจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้รับวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือน ผมขอเรียนย้ำว่า รัฐบาลได้จัดหาวัคซีนอย่างเพียงพอต่อคนในประเทศไทย ทุกคน ขณะนี้สามารถจัดหาวัคซีนได้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส สำหรับประชาชน 50 ล้านคน หรือ 70% ของประชากรภายในสิ้นปีนี้ และจะดำเนินการจัดหาเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า  
​ในเรื่องของวัคซีนโควิดนี้ ผมได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ด้วยตนเองตลอดเวลา และขอย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่าง เป็นไปด้วยความโปร่งใส และจะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตใดๆ เป็นอันขาด และผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ด้วยศักยภาพและความทุ่มเทเสียสละของบุคลากรของเราในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด และการระดม  ฉีดวัคซีน เราจะต้องชนะสงครามโควิดครั้งนี้ อย่างแน่นอนครับ

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ราชกิจจาฯ ประกาศ แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำนวน 14 ราย

ราชกิจจาฯ ประกาศ แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำนวน 14 ราย

"หมอดัง" เตือน ยาคู่ยอดฮิตหายปวดแต่ไตพัง กินผิดชีวิตเปลี่ยน

"หมอดัง" เตือน ยาคู่ยอดฮิตหายปวดแต่ไตพัง กินผิดชีวิตเปลี่ยน

"ทนายดัง" เคลียร์ชัด ใครถูกผิด ปมเดือดกระบะ vs บีเอ็มป้ายแดง

"ทนายดัง" เคลียร์ชัด ใครถูกผิด ปมเดือดกระบะ vs บีเอ็มป้ายแดง

แม่ดีใจ เจอแล้ว "น้องแบม" สาวน้อย 15  เปิดใจถึงสาเหตุ หนีออกจากบ้าน

แม่ดีใจ เจอแล้ว "น้องแบม" สาวน้อย 15 เปิดใจถึงสาเหตุ หนีออกจากบ้าน

หนุ่ม กรรชัย ตอบกลับเพจดัง หลังเผยจุดอ่อน เรื่องที่ไม่กล้านำเสนอ

หนุ่ม กรรชัย ตอบกลับเพจดัง หลังเผยจุดอ่อน เรื่องที่ไม่กล้านำเสนอ