ครม.ปรับลดวงเงิน ยิ่งใช้ยิ่งได้ เพราะสั่งปิดร้านค้าคนใช้สิทธิ์น้อยลง
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมครม.อนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เนื่องจากคำสั่งปิดร้านค้าและห้างสรรพสินค้าทำให้คนได้ใช้สิทธิ์น้อยลง
จากกรณีครม.อนุมัติโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เยียวยาประชาชนเนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ล่าสุดมีรายงานว่าที่ครม.อนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการ ลดวงเงินยิ่งใช้ยิ่งได้เหตุเพราะคำสั่งปิดร้านค้าทำให้คนได้ใช้สิทธิ์น้อยลง
วันนี้ (20 ก.ค.64) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติการเปลี่ยนแปลงโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้"
เนื่องจากว่ามีการคาดการณ์จากการประกาศข้อกำหนดของ ศบค. ที่ผ่านมาให้ปิดห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ของประเทศ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 20.00 น. และเปิดเฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน จึงมีผลให้อาจจะมีผู้ใช้สิทธิ์น้อยลง จึงมีการปรับเปลี่ยนโครงการเพื่อความเหมาะสม
โดยการเปลี่ยนแปลงมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ขยายระยะเวลาการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ได้รับการสนับสนุน e-Voucher จากเดิมระหว่าง 1 ก.ค. - 30 ก.ย. 2564 เป็น 1 ก.ค. - 30 พ.ย.2564
เพิ่มวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ ไม่เกิน 10,000 บาท/คน/วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-30 พ.ย. โดยยังจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน
ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ฯ จากเดิมที่ไม่เกิน 4 ล้านคน เป็น "ไม่เกิน 1.4 ล้าน"คน ทำให้กรอบวงเงินโครงการ ฯ ลดลงจาก 28,000 ล้านบาท เป็น 9,800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 18,200 ล้านบาท