ทนายเดชาลั่น คดีหนุ่มลุยเดี่ยวคล้าย "สมัครใจวิวาท" ผิดหมด อ้างอะไรไม่ได้
ทนายเดชาลั่น คดีหนุ่มลุยเดี่ยวคล้าย "สมัครใจวิวาท" ผิดหมดทุกฝ่าย อ้างอะไรไม่ได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานจากตำรวจด้วย
วันที่ 14 ตุลาคม 2564 หนุ่ม กรรชัย ได้เชิญแม่และเพื่อนของผู้เสียชีวิตเหตุหนุ่มลุยเดี่ยวแทงเจ้าถิ่นดับ 2 สาหัส 1 มาพูดคุยกันในรายการโหนกระแส โดยเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่มาออกรายการ 2 คนนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และหนึ่งในนั้นคือต้นเรื่องที่ทำให้เกิดเหตุขึ้น และได้โทรคุยกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กลางรายการถึงความผิดของทั้ง 2 ฝ่าย
ทนายเดชาได้เผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าต้องแยกเป็น 2 กรณี ถ้าเป็นการป้องกันตัว หนุ่มมือมีดจะไม่มีความผิด แต่ดูแล้วคล้ายๆกับกรณีว่ามีฝ่ายหนึ่งมาท้าทายอีกฝ่ายหนึ่ง และรับคำท้าเดินออกจากบ้านแล้วเอามีดไปแทงเขา
ถ้าเป็นกรณีลักษณะมีคนท้า มีคนรับคำท้านี่เขาเรียกว่า "สมัครใจวิวาทกัน" เพราะฉะนั้นก็จะเป็นผู้ต้องหาทั้งหมดเลย อ้างอะไรไม่ได้เลย ใครทำอะไรไปก็ต้องรับตามนั้น
เมื่อหนุ่ม กรรชัย ถามว่า แล้วฝ่ายแก๊งเจ้าถิ่นที่มาท้าเองก็มีความผิดใช่ไหม ทนายเดชาตอบว่า ผิด เพราะมาท้าคือมาสมัครใจวิวาท ส่วนคนในบ้านรับคำท้า เดินออกจากบ้านถือมีดไปก็สองฝ่ายก็พอกัน ก็เป็นผู้ต้องหาทั้งคู่ นี่คือหลักกฎหมาย
แต่ถ้าฝ่ายที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บคิดว่าไม่ได้ทำอะไรก็ต้องไปพิสูจน์กัน แต่ตามหลักกฎหมายจะเป็นอย่างนี้ มีคนท้า มีคนรับคำท้า คือสมัครใจวิวาท อ้างอะไรไม่ได้เลย
หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่าอย่างในกรณีนี้ ฝ่ายผู้ก่อเหตุอยู่ในบ้าน มีแฟนสาวอยู่ แต่ฝ่ายเสียชีวิตยกพวกกันมา 5 คน มาหาเรื่องปาของเข้ามาในบ้าน จนทนไม่ไหว วิ่งออกมาแบบนี้ก็ถือว่าไม่ได้เหมือนกันใช่ไหม
ทนายเดชา ตอบ ดูแล้วเป็นลักษณะของการบันดาลโทสะ เพราะก็ยังไม่มีใครเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องดูด้วยว่าในการบันดาลโทสะนี้เรามีส่วนร่วมอะไรด้วยไหมอย่างไร อันนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ ต้องไปต่อสู้กัน คดีแบบนี้ต้องแล้วแต่หลักฐาน กล้องวงจรปิดและประจักษ์พยาน ต้องไปพิสูจน์กัน แต่อย่างเหตุมีใครเอาของมาเขวี้ยงบ้านเรา แต่เราออกไปฆ่าเขา อันนี้อาจจะเป็นการเกินกว่าเหตุ คดีนี้ยังไม่ชัด ต้องให้ตำรวจไปติดตามต่อ
ส่วนฝั่ง บาส หนุ่มลุยเดี่ยว จะแจ้งข้อหาฝั่งเจ้าถิ่นกลับนั้นก็ให้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขอบคุณ รายการโหนกระแส