สังคม

heading-สังคม

ยายขอสั่งเสียถึงลูกสาว กลับมาดูหลานที่ทิ้งไว้ แม่อยู่ได้อีกไม่นาน

22 ต.ค. 2564 | 17:38 น.
ยายขอสั่งเสียถึงลูกสาว กลับมาดูหลานที่ทิ้งไว้ แม่อยู่ได้อีกไม่นาน

ยายขอสั่งเสียถึงลูกสาว กลับมาดูหลานที่ทิ้งไว้ แม่อยู่ได้อีกไม่นานเนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งเต้านม หมอบอกลุ้นใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (22 ต.ค. 64) เมื่อเวลา 15.30 น.ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่อาพารท์เม้นท์ ถนนลำลูกกาคลอง 2 ต.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อไปพบนางผ่องวรรณ พิลาด  อายุ 53 ปี ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย หลังมีเพจเฟสบุ๊คแชร์เรื่องราวขอความช่วยเหลือว่ายายป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายต้องเลี้ยงหลานชายวัย 7 ขวบที่เป็นออทิสติก มิหนำซ้ำยังไม่สามารถติดต่อพ่อแม่เด็กได้อีก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งภายหลังจากผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางผ่องวรรณ นางผ่องวรรณได้เดินออกมาตอนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดูมีกำลังใจที่ดีมาก ยังเดินเหินได้ปกติ ส่วนหลานชายวัย 7 ขวบก็ดูร่าเริงมีความสุขเมื่อมีคนมาหา แต่เด็กไม่สามารถพูดได้ได้แต่ยิ้มกับหัวเราะ แต่เด็กได้ยินทุกอย่าง 

 

ยายป่วยมะเร็งวอนลูกสาวกลับมาดูหลานที่ทิ้งไว้ให้เลี้ยง

 

จากการตรวจดูสภาพความเป็นอยู่อาศัยของนางผ่องวรรณ อาศัยอยู่ห้องเช่าเล็กๆชั้นล่างในห้องหมายเลข 5 อาศัยอยู่กัน 3 คน มีนางผ่องวรรณ์สามีใหม่และหลานชายวัย 7 ขวบ ภายในห้องมีที่นอนเก่าๆไว้ปูหลับนอน มีทีวีและตู้เย็น(ญาติให้มา) แต่ไม่พบข้าวสารอาหารแห้งแต่อย่างใด 

สอบถามเจ้าของอาพาร์ทเม้นท์บอกว่าตนเองและผู้ใจบุญข้างๆห้องช่วยทำอาหารมาให้นางผ่องวรรณ์กิน หลังจากนางผ่องวรรณ์พูดคุยกับผู้สื่อข่าวได้สักพักนางผ่องวรรณก็มีอาการหอบเหนื่อยต้องหายใจทางปากช่วยนอนฟุบลง ผู้สื่อข่าวจึงเรียกรถกู้ชีพของทางทีมงานสายไหมต้องรอดมาดูอาการเป็นการเร่งด่วน จากนั้นทีมงานเพจสายไหมต้องรอดจึงนำถังออกซิเจนและข้าวสารอาหารแห้งมาบริจาคให้นางผ่องวรรณ พร้อมรับปากว่าจะดูแลเรื่องอาการป่วยและความเป็นอยู่ของป้าผ่องวรรณให้เอง 

นางผ่องวรรณ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีตนเองอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว โดยอาศัยอยู่กับสามีใหม่และหลานแท้ๆที่เป็นออทิสติกที่แม่มัน(ลูกสาวนางผ่องวรรณ)นำมาฝากเลี้ยงไว้ตั้งแต่ 7 เดือน 

ก็ใช้ชีวิตปกติดี ตนเองทำทำงานรับจ้างเป็นแม่ทั่วไปได้เงินเดือนดีมากถึงขั้นมีเงินเก็บเดือนละ 2,000-3,000 เลย ส่วนสามีใหม่ตนเองก็มีอาชีพขับแท็กซี่ รายได้ของตนกับสามีเลี้ยงหลานชายได้สบาย ภาระประจำวันของตนเองคือไปส่งหลานไปเรียนหนังสือชั้นอนุบาลและต้องอยู่เฝ้าหลานจนเรียนเสร็จแล้วจึงพาหลานกลับบ้านด้วยกัน เพราะพูดไม่รู้ภาษาแต่ได้ยินฟังรู้เรื่องและหลานยังไม่สามารถอุจจาระเองได้ ต้องช่วยเหลือเวลาขับถ่าย ตอนเย็นก็พาหลานไปรับจ้างทำความสะอาดตามตลาดแถวๆห้องพัก และรับจ้างทำความสะอาดอาพาร์ทเม้นท์ที่คนอาศัยอยู่ด้วย 

 

ยายป่วยมะเร็งวอนลูกสาวกลับมาดูหลาน

 

จนมาเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ตนเองรู้สึกเจ็บหน้าอก ตนเองจึงไปหาหมอโดยใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ปรากฎว่าตนมีเนื้อร้ายที่หน้าอกต้องตัดออก(มะเร็ง) หลังจากหมอตัดเนื้อร้ายออกแล้วยังพบว่าเนื้อร้ายยังลามต่อไปยังปอดได้ หมอจึงทำคีโมให้ตนเอง 6 ครั้ง โดยในช่วงที่ทำคีโมครั้งที่ 3 หมอถามกับตนเองว่า ถ้าหมอบอกความจริงอะไรให้ตนเองจะรับได้ไหม ตนเองบอกหมอไปว่ารับได้ทุกอย่าง หมอได้บอกกับตนเองว่าตนเองสามารถมีชีวิตได้อย่างรายวัน คือต่อลุ้นกันไปวันต่อวัน

วันที่ 28 ตุลาคมนี้ หมอนัดฟังผลอีกครั้งว่าเนื้อร้ายลุกลามไปถึงไหนแล้ว ตอนนี้ได้แต่ต้มสมุนไพร(หนอนตายหยาก)กินเองเพื่อให้มีชีวิตรอดได้ดูแลหลานต่อไป 

นางผ่องวรรณ เล่าทั้งน้ำตาต่อว่า ตนติดต่อลูกสาวคนที่เอาหลานชายมาฝากเลี้ยงไว้ไม่ได้เลย โทรไปก็ไม่รับ ทั้งเปลี่ยนเบอร์หนีบ้างปิดเครื่องบ้าง ตนไม่ได้โทรไปขอเงินตนแค่อยากโทรไปสั่งเสียเท่านั้น

ตนเองเป็นห่วงแต่หลานชายนี้แหละ ตนเองจะตายวันนี้วันพรุ่งนี้ก็ไม่รู้ จะให้สามีใหม่ตนเองเลี้ยงดูต่อไปได้ยังไงเขาไม่ใช่ตาแท้ๆของเด็ก ตนเองอยากให้เขามาแวะเข้ามาดูลูกเขาบ้าง  

วอนขอผู้ใจบุญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูเรื่องการศึกษาของเด็กหน่อย เด็กอายุ 7 ขวบแล้วแต่ไม่ได้เรียนหนังสือ  ส่วนเรื่องอาหารการกินก็พอได้เงินจากสามีใหม่ที่ขับแท็กซี่หาเลี้ยงบ้าง แต่ไม่ค่อยพอใช้ต้องกู้เงินจากบังปล่อยเงินกู้ร้อยละยี่สิบมาเพิ่มเพื่อค่าใช้จ่ายเวลาไปหาหมอ 

 

แม่ขอสั่งเสียครั้งสุดท้าย

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  แอดมินเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ได้รับก็ประสานเข้ามาว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายต้องเลี้ยงหลานที่เป็นเด็กพิเศษอีก จึงต้องลงพื้นที่มาดูเร่งด่วน พร้อมถังออกซิเจนและนำข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่มเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน 

จากนี้ไปจะเข้ามาดูแลเคสนี้เป็นพิเศษ  อยากฝากถึงลูกสาวคุณยายผ่องวรรณด้วยว่า หากได้ดูข่าวนี้แล้ววิงวอนให้กลับมาดูแม่หน่อย มาให้กำลังแม่หน่อย เป็นโรคนี้อยู่ได้เพราะกำลังใจ 

ทั้งนี้ หากท่านใดจะบริจาคเงินช่วยเหลือ เนื่องจากสมุนไพรที่ใช่รักษาโรคมะเร็งมีราคาสูง สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี นางผ่องวรรณ์ พิลาด หมายเลข 020271260752 ธนาคารออมสิน

 

ยายป่วยมะเร็งเต้านมห่วงหลานออทิสติก ขอสั่งเสียสุดท้ายให้แม่เด็กกลับมาดู

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี"  สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี" สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

โดนแล้ว "พีช สมิทธิพัฒน์" สารภาพ 3 ข้อหา เผยค่าปรับที่ต้องชดใช้

โดนแล้ว "พีช สมิทธิพัฒน์" สารภาพ 3 ข้อหา เผยค่าปรับที่ต้องชดใช้

รวบ 2 จิ๊กโก๋ รัวปืนกลางงานวัด บาดเจ็บ 3 ราย พบมีคดีติดตัวทั้งคู่

รวบ 2 จิ๊กโก๋ รัวปืนกลางงานวัด บาดเจ็บ 3 ราย พบมีคดีติดตัวทั้งคู่