แฉอีก อดีตพระอาจารย์คม มีกุฏิ - ถ้ำลับ ชาวบ้านเคยเห็นพระถือถุงดำทำลับๆ ล่อๆ

แฉอีก อดีตพระอาจารย์คม มีกุฏิ - ถ้ำลับ ชาวบ้านเคยเห็นพระถือถุงดำทำลับๆ ล่อๆ : จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คดีอดีตพระอาจารย์คม จากที่เจอทองคำแท่งฝังบนเขาหลังวัด 19 ล้านบาท เงินสดอีก 80 ล้าน รวมยักยอกกว่า 270 ล้าน หลังจากที่ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอฝากขัง 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ 1.นายคม  หรือ อดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี 2. นายวุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี และ 3. น.ส.จุฑาทิพย์ อายุ 35 ปี โดย ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี

 

ต่อมามีรายงานว่า จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธฯ จังหวัดนครราชสีมา และสำนักพุทธจากส่วนกลางมา เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติม ร่วมกับคณะกรรมการวัดที่แต่งตั้งไว้ ที่วัดป่าธรรมคีรี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

โดยบริเวณประตูทางเข้ากำลังมีคนงานก่อสร้างรั้วประตู และนำประตูเหล็กมากั้นไม่ให้สื่อมวลชนเข้า จนเวลา 14.20 น. พบรถตู้ของสำนักงานพระพุทธศาสนา วิ่งเข้าไปในวัด คาดว่าภายในวัดเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ที่เดินทางมาตรวจสอบร่วมกับคณะกรรมการวัด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา น่าจะอยู่ภายในวัดยังไม่ถอนกำลังกลับ แต่มีแม่ชี 2 คน คอยกำกับดูแล และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป

 

พร้อมกันนี้ ยังมีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า คืนก่อนหน้านี้ พระสงฆ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ค้นหาที่ซ่อนทรัพย์สินของอดีตพระอาจารย์คม ตามจุดต่างๆ บนภูเขาด้านหลังวัด พบทองคำแท่ง และเงินสดได้เพิ่มเติม รวมทั้งที่พบก่อนนั้น ที่ยอกยอกคาดว่ามีจำนวนหลาย 100 ล้านบาท
 

 

จากการสอบถามชาวบ้านที่ทำไร่ อยู่ใกล้เขตวัดป่าธรรมคีรี เล่าว่า ด้านหลังวัดเป็นพื้นที่ป่าภูเขา เชื่อมต่อพื้นที่วัด มีถ้ำอยู่หลายจุด และมีกุฏิที่พักสงฆ์ ปลูกกระจายตามภูเขามากกว่า 5-8 หลัง คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปถึง และเคยพบเห็นมีพระถือถุงดำและสิ่งของไปเก็บไว้ มาตลอดหลายปีติดต่อกันโดยไม่ทราบเป็นอะไร 

 

อีกทั้งยังมีพระเดินตรวจเวรยามตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน คาดว่าอาจจะซุกซ่อนของมีค่าเอาไว้หรือไม่ ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นวัดที่ไม่ธรรมดา กลัวจะมีปัญหาเลยปิดเงียบ และเพียงแอบดูเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีก คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินยังร่วมกันตรวจสอบไม่หยุดยั้ง และตามกำหนดจะตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 พ.ค. นี้ แต่น่าจะไม่แล้วเสร็จตามกำหนด เพราะคาดว่ายังมีอีกหลายจุดที่บังตา เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูง และคาดว่ายังมีทรัพย์สินที่ตรวจไม่พบอีกแน่นอน