หนุ่มเผลอหลับระหว่างทำงาน โดนไล่ออก ก่อนฟ้องกลับ ศาลตัดสินแทบไม่อยากเชื่อ
หนุ่มเผลอหลับระหว่างทำงาน เจอฝ่ายบุคคลรายงานเจ้านาย สักพักโดนไล่ออก ก่อนฟ้องกลับบริษัท ศาลตัดสินแทบไม่อยากจะเชื่อ
เคสนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อสื่อในประเทศจีนได้รายงานคดีการฟ้องร้องระหว่างพนักงานกับบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ เนื่องจากพนักงานถูกทางบริษัทไล่ออก ด้วยเหตุผลว่า "หลับระหว่างทำงาน" เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่ทางพนักงานไม่ยอมจึงยื่นฟ้องร้องต่อศาล และผลปรากฏสุดท้ายหลายคนนึกไม่ถึง
ตามรายงานระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองไทซิง มณฑลเจียงซู กับนายจาง ที่มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายของบริษัทแห่งหนึ่ง วันก่อนเกิดเหตุเขาได้ขับรถจนถึงเที่ยงคืน กระทั่งเช้าวันต่อมา เมื่อเขาไปทำงาน เขาเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้ามากจนเผลอหลับตรงโต๊ะทำงานเป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นทางพนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพบพฤติกรรมของเขา จึงได้เขียนแบบฟอร์มรายงาน โดยระบุว่า "นายจางได้หลับในระหว่างที่ทำงานและปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎระเบียบของบริษัท" พร้อมทั้งขอให้เขาลงนามยอมรับการกระทำความผิดดังกล่าว อันเป็นเหตุให้ทางบริษัทยกเลิกสัญญาจ้างงานกับเขา
ทว่าทางนายจางรู้สึกไม่พอใจและคิดว่าไม่รับความยุติธรรม จึงได้ยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาล กระทั่งต่อมา ศาลมีความเห็นว่า นายจางทำงานให้กับบริษัทแห่งนี้มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ได้รับการขึ้นเงินเดือน และเลื่อนตำแหน่งหลายครั้ง เนื่องจากผลงานที่โดดเด่นของเขา ในกรณีที่นายจางกระทำผิดทางวินัย ละเมิดกฎระเบียบของบริษัท แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายร้ายแรง จนสมควรให้ถูกยกเลิกสัญญาจ้าง
อีกทั้งทางศาลชี้ให้เห็นว่า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยโดยรอบ ได้แก่ แรงจูงใจ ความถี่ ผลกระทบ และความเสียหาย รวมทั้งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พบว่า พฤติกรรมการนอน 1 ชั่วโมงของนายจาง ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีผลกระทบเชิงลบต่อบริษัทมากนัก ดังนั้น จึงไม่ควรถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่อง "ร้ายแรง"
จากคำชี้แจงในรายงานของศาลระบุว่า "การที่บริษัทยกเลิกสัญญาจ้างงานกับนายจางโดยตรงเพียงเพราะเขาฝ่าฝืนข้อปฏิบัติตามระเบียบคู่มือของพนักงานภายในของบริษัทเพียงครั้งเดียวนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งยังผิดกฎหมายด้วยซ้ำ" อย่างไรก็ตาม ทางศาลจึงมีคำตัดสินให้ทางบริษัทจึงต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้นายจางเป็นจำนวนมากกว่า 350,000 หยวน หรือประมาณ 1.66 ล้านบาท
ข้อมูลจาก ETtoday